สตาร์บัคส์ (Starbucks) เครือข่ายร้านกาแฟชื่อดังระดับโลก ประกาศว่า พนักงานของสตาร์บัคส์จะต้องกลับเข้าทำงานในออฟฟิศสัปดาห์ละ 4 วัน เริ่มตั้งแต่เดือนต.ค. จากเดิมที่เข้าสัปดาห์ละ 3 วันในขณะนี้
ส่วนพนักงานที่ไม่ต้องการกลับมาทำงานในออฟฟิศเพิ่มอีก 1 วัน และต้องการลาออกจากบริษัท สตาร์บัคส์ก็ได้เสนอ "โครงการลาออกโดยสมัครใจครั้งเดียว พร้อมเงินชดเชย"
"เราเข้าใจดีว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะเห็นด้วยกับแนวทางนี้ แต่เราได้ฟังความคิดเห็นและพิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว ในฐานะที่เป็นบริษัทที่สร้างขึ้นบนพื้นฐานของการเชื่อมต่อระหว่างบุคคล และเมื่อมองไปที่ความท้าทายที่เราต้องพลิกฟื้นธุรกิจ เราเชื่อว่านี่คือแนวทางที่ถูกต้องสำหรับสตาร์บัคส์" นายไบรอัน นิคโคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสตาร์บัคส์ ระบุในจดหมายถึงพนักงาน
ก่อนหน้านี้ ในเดือนต.ค.2567 เพียง 2 เดือนหลังจากที่นายนิคโคลเข้ารับตำแหน่ง สตาร์บัคส์ได้แจ้งพนักงานว่ามีความเสี่ยงที่จะถูกเลิกจ้าง หากไม่กลับมาทำงานที่ออฟฟิศสัปดาห์ละ 3 วัน และในเดือนก.พ.2568 บริษัทก็ได้ปลดพนักงาน 1,100 คน พร้อมประกาศว่าจะไม่รับคนใหม่มาแทนตำแหน่งงานว่างหลายร้อยตำแหน่ง เพื่อสนับสนุนความพยายามในการปรับโครงสร้างบริษัท
ทั้งนี้ สตาร์บัคส์เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่เริ่มผลักดันให้พนักงานกลับมาทำงานที่ออฟฟิศมากขึ้น เช่นเดียวกับวอลมาร์ท ซึ่งได้แจ้งพนักงานหลายร้อยคนในดัลลัส แอตแลนตา โตรอนโต ให้ย้ายไปทำงานที่สำนักงานใหญ่ในเมืองเบนตันวิลล์ รัฐอาร์คันซอ และในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา บริษัทกูเกิลก็ได้แจ้งให้พนักงานกลับเข้าออฟฟิศสัปดาห์ละ 3 วัน มิฉะนั้นจะถูกเลิกจ้าง