สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ก.ค. 68)
นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเย็นนี้ ปิดตลาดที่ระดับ 32.38 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากช่วง เช้าเปิดตลาดที่ระดับ 32.26 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 32.21-32.40 บาท/ดอลลาร์ วันนี้เงินบาทอ่อนค่าตามสกุลเงินในภูมิภาค เนื่องจาก การแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐ ประกอบกับยังมีการปะทะกันระหว่างกองกำลังทหารของไทย-กัมพูช บริเวณแนวชายแดน สำหรับคืนนี้ยังไม่มีรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ โดยสัปดาห์หน้า ตลาดรอติดตามผลการเจรจาภาษีสหรัฐฯ ว่าจะมีประเทศใดบ้างที่บรรลุข้อตกลง และได้ภาษีในอัตราใด รวม ถึงการดีลเจรจาของไทยด้วยเช่นกัน ประกอบกับ สัปดาห์จะมีการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลาง สหรัฐ และการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) นักบริหารเงิน คาดว่า สัปดาห์หน้าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.20 - 32.45 บาท/ดอลลาร์ * ปัจจัยสำคัญ - เงินเยน อยู่ที่ระดับ 147.81 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 146.58 เยน/ดอลลาร์ - เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1730 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1752 ดอลลาร์/ยูโร - ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ 1,217.15 จุด เพิ่มขึ้น 4.66 จุด (+0.38%) มูลค่าซื้อขาย 36,910.98 ล้านบาท - สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 271.82 ล้านบาท - รมว.คลัง กล่าวถึงความคืบหน้าในการเจรจาภาษีนำเข้าสินค้ากับสหรัฐฯ ว่า ขณะนี้ไทยได้ยื่นข้อเสนอให้กับทางสหรัฐฯ ไป แล้ว 99.99% ส่งไปให้ทุกอย่างแล้ว ขณะนี้สหรัฐฯ อยู่ระหว่างการพิจารณาอย่างเข้มข้น โดยมั่นใจว่าจะได้ข้อสรุปก่อนวันที่ 1 ส.ค.68 อย่างแน่นอน - ปลัดคลัง คาดแนวโน้มเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2/68 จะยังขยายตัวได้ดี โดยได้รับแรงส่งจากไตรมาส 1/68 ที่ GDP ขยายตัวถึง 3.1% อีกทั้งยังได้อานิสงส์จากแนวโน้มการส่งออกที่เติบโตได้ดี จากการเร่งส่งออกก่อนสิ้นสุดระยะเวลาผ่อนผันปรับขึ้นภาษีนำ เข้าสินค้าของสหรัฐฯ ขณะที่ไตรมาส 3/68 เศรษฐกิจไทยอาจจะได้รับความเสี่ยงความไม่สงบในชายแดนไทย-กัมพูชาบ้าง แต่เชื่อว่า สถานการณ์จะไม่ยืดเยื้อ - รมว.สหรัฐฯ เปิดเผยว่า คณะผู้แทนของสหรัฐฯ จะเน้นย้ำกับทางการจีน ถึงความสำคัญที่จีนควรหยุดการซื้อน้ำมันจา กรัสเซียและอิหร่านในระหว่างการเจรจาการค้าร่วมกับเจ้าหน้าที่จีน ที่ประเทศสวีเดนในสัปดาห์หน้า เพราะหากจีนหยุดซื้อน้ำมันจากรัสเซีย และอิหร่าน เพียง 3 หรือ 6 เดือน ก็อาจทำให้เครื่องจักรสงครามของรัสเซียชะงักลง และช่วยให้การเจรจากับอิหร่านเป็นไปได้ง่ายขึ้น - กระทรวงการคลังอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า เศรษฐกิจของอินโดนีเซีย มีแนวโน้มจะขยายตัวมากกว่า 5% ในช่วงครึ่งหลัง ของปีนี้ พร้อมตั้งเป้ารายได้จากภาษีเพิ่มขึ้นในปี 2569 - ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สหรัฐฯ ยังคงกดดันให้เจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับลด อัตราดอกเบี้ย ในระหว่างการเยือนสำนักงานใหญ่ของเฟด ในกรุงวอชิงตัน โดยระบุว่า ขณะนี้สหรัฐฯ มีดอกเบี้ยสูงที่สุดในโลก ประชาชน แทบจะซื้อบ้านไม่ได้ เพราะอัตราดอกเบี้ยสูงเกินไป - ความเชื่อมั่นผู้บริโภคชาวสหราชอาณาจักร (UK) ยังคงซบเซาในเดือนก.ค. ท่ามกลางความกังวลเรื่องการขึ้นภาษี และ ภาวะเงินเฟ้อ ส่งผลให้ดัชนีการออมพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 18 ปี สะท้อนว่าภาคครัวเรือน กำลังเตรียมพร้อมรับมือกับสภาวะ เศรษฐกิจที่ยากลำบากในวันข้างหน้า