ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดบวก 31.48 จุด นักลงทุนหวังรัสเซีย-ยูเครนยุติสงคราม

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันอังคาร (19 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นหลายกลุ่ม แม้ถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มกลาโหม ขณะที่นักลงทุนประเมินความเป็นไปได้ของข้อตกลงยุติสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดตลาดที่ระดับ 9,189.22 จุด เพิ่มขึ้น 31.48 จุด หรือ +0.34%

บรรยากาศการลงทุนดีขึ้นหลังจากการประชุมเมื่อวันจันทร์ระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ กับประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีของยูเครน และบรรดาพันธมิตรยุโรป โดยทรัมป์ให้คำมั่นว่าสหรัฐฯ จะสนับสนุนความมั่นคงของยูเครนในการทำข้อตกลงยุติสงคราม อย่างไรก็ตาม เขายอมรับว่าประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียอาจปฏิเสธการเจรจาโดยสิ้นเชิง

หุ้นกลุ่มอากาศยานและกลาโหมร่วงลง 2.8% ซึ่งเป็นการปรับลงรายวันที่มากที่สุดนับตั้งแต่ต้นเดือนเม.ย. แม้ตลอดทั้งปียังบวกกว่า 70% โดยการอ่อนตัวครั้งนี้สอดคล้องกับหุ้นกลุ่มกลาโหมยุโรปโดยรวม หลังนักลงทุนขายทำกำไรจากการปรับขึ้นแรงก่อนหน้านี้

หุ้นกลุ่มการเงินเป็นตัวนำหนุนดัชนี FTSE 100 โดยดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารเพิ่มขึ้น 0.3% ขณะที่หุ้น Metro Bank พุ่งขึ้น 5.3% หลังจาก RBC Capital Markets ปรับเพิ่มคำแนะนำจาก "sector perform" เป็น "outperform"

นักลงทุนกำลังจับตาข้อมูลเงินเฟ้อจากราคาผู้บริโภคของอังกฤษที่จะประกาศในวันพุธนี้เพื่อหาทิศทางนโยบายการเงินเพิ่มเติมของธนาคารกลางอังกฤษ

นักวิเคราะห์กล่าวว่า ความเชื่อมั่นที่ดีขึ้นหลังจากการประชุมของทรัมป์กับบรรดาผู้นำยุโรป รวมถึงเซเลนสกี ประกอบกับคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อเดือนก.ค. ที่จะประกาศในวันพุธนี้จะสูงกว่าเดือนก่อนเพียงเล็กน้อย ก็ช่วยหนุนตลาดเช่นกัน

หุ้นที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคเพิ่มขึ้น โดยดัชนีหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคส่วนบุคคลพุ่งขึ้น 4.7% โดยหุ้น JD Sports พุ่งแรง 7% หลังดอยซ์แบงก์ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายของหุ้นค้าปลีกเครื่องกีฬารายนี้

แต่หุ้น International Workplace Group ดิ่งลง 12.8% หนักที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2563 หลังบริษัทเช่าพื้นที่สำนักงานระบุว่ากำไรหลักที่ปรับแล้วตลอดทั้งปีมีแนวโน้มอยู่ในระดับต่ำสุดของประมาณการ