(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์รอลุ้นคดีทางการเมือง 2 พ่อ-ลูก "ชินวัตร"

นักวิเคราะห์ฯ คาดแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งไซด์เวย์หลังวานนี้รีบาวด์ขึ้นมาได้ดี โดยยังคงรอติดตามปัจจัยการเมืองในประเทศ ทั้งการพิจารณาตัดสินคดีคลิปเสียงนายกฯ และคดี ม.112 ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประกอบกับ ปัจจัยภายนอกยังกังวลเงินเฟ้อสหรัฐสูงจากผลกระทบภาษี "ทรัมป์" อาจทำเฟดลดดอกเบี้ยน้อยกว่าคาด แต่ยังต้องจับตาถ้อยแถลงประธานเฟดในการประชุม Jackson Hole คืนวันศุกร์ พร้อมให้แนวต้าน 1,260 จุด แนวรับ 1,230 จุด

นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน (บลป.) เอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าแกว่งไซด์เวย์หลังจากวานนี้ปรับตัวขึ้นมาได้ดี โดยยังรอติดตามปัจจัยการเมืองในประเทศ การไต่สวนคดีคลิปเสียงของนายกรัฐมนตรีก่อนจะวินิจฉัยในวันที่ 29 ส.ค. และพรุ่งนี้จะมีการพิจารณาตัดสินคดี ม.112 ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนรี เป็นปัจจัยในประเทศที่ตลาดรอติดตาม

ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศยังคงมีความกังวลเงินเฟ้อสหรัฐจะสูงขึ้นจากนโยบายภาษีของประธานาธิบดีสหรัฐ ทำให้ตลาดเกรงว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจลดดอกเบี้ยน้อยกว่าที่คาด แต่ก็ยังต้องจับตาถ้อยแถลงของประธานเฟดในการประชุมรอบ Jackson Hole คืนวันศุกร์นี้

ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เปิดมาเช้านี้เคลื่อนไหวบวกและลบสลับกัน

โดยให้แนวต้าน 1,260 จุด แนวรับ 1,230 จุด


*ประเด็นพิจารณาการลงทุน


- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (20 ส.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 44,938.31 จุด เพิ่มขึ้น 16.04 จุด หรือ +0.04%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,395.78 จุด ลดลง 15.59 จุด หรือ -0.24% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 21,172.86 จุด ลดลง 142.10 จุด หรือ -0.67%

- ตลาดหุ้นเอเชียภาคเช้าเปิดบวก ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 42,783.26 จุด ลดลง 105.29 จุด หรือ -0.25% ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 25,216.42 จุด เพิ่มขึ้น 50.48 จุด หรือ +0.2%, ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดที่ระดับ 3,770.68 จุด เพิ่มขึ้น 4.47 จุด หรือ +0.12%

- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (20 ส.ค.) 1,248.13 จุด เพิ่มขึ้น 12.37 จุด (+1.00%) มูลค่าซื้อขาย 43,127.12 ล้านบาท

- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ (20 ส.ค.) 563.88 ล้านบาท

- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. (20 ส.ค.) เพิ่มขึ้น 86 เซนต์ หรือ 1.38% ปิดที่ 63.21 ดอลลาร์/บาร์เรล

- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (20 ส.ค.) อยู่ที่ 4.15 เหรียญ/บาร์เรล

- เงินบาทเปิด 32.57 อ่อนค่าเล็กน้อย จับตา "นายกฯ อิ๊งค์" ขึ้นศาลไต่สวนคดีคลิปเสียง

- ลุ้นศาลรัฐธรรมนูญ นัดไต่สวนคดีคลิปเสียง "แพทองธาร" สนทนา "ฮุนเซน" ยังเก็บตัวเงียบไม่มีภารกิจตลอดสัปดาห์ เผย 21 สิงหาคมตรงวันเกิด จะไปแจงศาลรธน.เอง พร้อมทีมทนาย

- รมว.คลัง เผยที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจเห็นชอบการโอนงบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจที่เหลืออยู่ 26,000 ล้านบาท ไปเพิ่มในงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น โดยที่ผ่านมารัฐบาลได้อนุมัติเงินก้อนนี้ไป 2 ครั้ง มีบางส่วนที่ใช้ไม่หมดก็เอามาคืน เมื่อรวมกับวงเงินที่ยังไม่จัดสรรทำให้มีวงเงิน 26,000 ล้านบาท จึงเป็นหน้าที่ของสำนักงบประมาณที่จะไปจัดการ ซึ่งเงินทั้งหมดนี้ต้องใช้ภายในเดือน ก.ย.นี้

- นักวิชาการประเมินสหรัฐเก็บภาษีจีน 30% ไทยเจอสินค้าจีนทะลัก 6.9-8.8 หมื่นล้านบาท คาด 3 ปีข้างหน้าขาดดุล ประวัติการณ์สินค้าเข้าไทยสูงสุดรอบ 10 ปี ชี้จีนทะลักไทย-เวียดนาม-มาเลเซีย "รัฐบาล" เลื่อนหารือ Local Content สศช.ชี้ไทยเสียส่วนแบ่งอิเล็กฯ คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์รถยนต์ มองสหรัฐเลื่อนเก็บภาษีจีนเพิ่มความเสี่ยง เศรษฐกิจโลก ห่วงโซ่การผลิตชะงัก

-สมาคมโรงแรมไทยยื่นศาลปกครองพิจารณาถอนมติค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาท ทั่วประเทศ ย้ำธุรกิจโรงแรมทุกภูมิภาคกระทบหนัก ด้านสถานการณ์ "ต่างชาติเที่ยวไทย" รับปัจจัยท้าทาย 2 ปีข้างหน้า ทัวริสต์วิตกภาพลักษณ์ "ความปลอดภัย" หลังฉุดยอด ตั้งแต่ ก.พ. ร่วง 20% ด้านซีอีโอเครือออนิกซ์ ประเมินปีนี้ 30 ล้านคน ส่วนปี 69 คาดทรงตัว


*หุ้นเด่นวันนี้

- PTTGC (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 25.40 บาท คงมุมมองเชิงบวกต่อเนื่องจากระดับ valuation น่าสนใจเมื่อเทียบกับกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกันในภูมิภาค เรามองอุตสาหกรรมมีแนวโน้มดีขึ้นจากทั้ง demand และ supply เช่น IMF ปรับคาดการณ์ GDP growth ขึ้นในหลายประเทศนำโดยจีน และผลประชุม Politburo ในจีนครั้งล่าสุดส่งสัญญาณควบคุมอุตสาหกรรมหลักที่ oversupply จาก capacity ล้นพร้อมกับแผนกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่องเพื่อรองรับความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้น คาด product spread มีโอกาสดีขึ้นในระยะกลางและยาวหากมีการลดลงของ supply ในจีนได้จริง

- COM7 (คิงส์ฟอร์ด) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 28.50 บาท กำไรสุทธิไตรมาส 2/68 ที่ 1 พันล้านบาท +2%QoQ, +33%YoY กำไรเติบโตสูง YoY จากยอดขายสาขาเดิม SSSG +6% รวมถึงผลงาน NCAP ดีขึ้น ส่วนแนวโน้มไตรมาส 3-4/68 คาดกำไรปรับขึ้นได้ต่อเนื่องจากการเปิดตัว iphone 17 ต้นเดือน ก.ย.และแผนเปิดราคาใหม่ ณ สิ้น ไตรมาส 2/68 มี 1,320 สาขา ตั้งเป้าสิ้นปีเปิดครบ 1,400 สาขา รวมถึงธุรกิจ EV7 สิ้นไตรมาส 2/68 ส่งมอบแล้ว 835 คัน ตั้งเป้าส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้า 3 พันคันในปี 68 และสินเชื่อ UFUND พอร์ตสิ้นปีหวังแตะ 4.5 พันล้านบาท ส่งให้เป้ารายได้ทั้งปีทะลุ 8 หมื่นล้านบาท ตลาดคาดกำไรปี 68 ที่ 3.8 พันล้านบาท +15%YoY ส่วนปี 69 อยู่ที่ 4.1 พันล้านบาท +10%YoY

- SJWD (ฟินันเซีย ไซรัส) แนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 14 บาท จากกำไรปกติ H1/68 เติบโต 91% YoY ยืนยันว่าปี 68 เป็นปีที่ดี แนวโน้มกำไร H2/68 คาดยังสดใสต่อเนื่องทั้งธุรกิจห้องเย็น คลังสินค้า ส่วนแบ่งกำไรธุรกิจต่างประเทศยังแข็งแกร่ง ทั้งหมดช่วยชดเชยธุรกิจ Automotive ที่ยังซบเซา ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 68 ขึ้น 22% เป็น 1.2 พันลบ +49% YoY และปรับเพิ่มกำไรปี 69-70 ขึ้น 11%/10% เป็นเติบโต +6%/+11% ตามลำดับ