สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ส.ค. 68)
นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ อยู่ที่ระดับ 32.44 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวจาก ช่วงเช้าเปิดตลาดที่ระดับ 32.43 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบแคบที่ 32.39-32.48 บาท/ดอลลาร์ โดยช่วงเช้าเงินบาทปรับตัวแข็งค่า เนื่องจาก ตลาดยังมีการย่อยข่าวถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่กล่าวในงาน Jackson Hole Symposium ขณะที่การรายงานข้อมูลเศรษฐกิจของไทยวันนี้ ทั้งในส่วนของภาวะการค้าระหว่างประเทศ (การส่งออก-นำเข้า) รวมถึง ภาวะสังคมไตรมาส 2/68 จากสภาพัฒน์ (หนี้ครัวเรือน-ข้อมูลด้านแรงงานไทย) มีผลต่อเงินบาทที่ค่อนข้างจำกัด โดยสัปดาห์นี้ เชื่อว่าตลาดจะไปรอลุ้นข้อมูลในช่วงวันศุกร์ ทั้งปัจจัยการเมืองในประเทศ กรณีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ในคดีคลิปเสียงสนทนาระหว่างนายกรัฐมนตรีไทยกับสมเด็จฮุนเซน รวมถึงรอดูตัวเลข PCE ของสหรัฐฯ ในช่วงคืนวันศุกร์ นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.35 - 32.55 บาท/ดอลลาร์ * ปัจจัยสำคัญ - เงินเยน อยู่ที่ระดับ 147.36 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 147.28 เยน/ดอลลาร์ - เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1690 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.700 ดอลลาร์/ยูโร - ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ 1,262.67 จุด เพิ่มขึ้น 9.28 จุด (+0.74%) มูลค่าซื้อขาย 39,908.97 ล้านบาท - สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 516.36 ล้านบาท - สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ รายงานภาวะสังคมถึงหนี้สินครัวเรือนในไตร มาส 1/68 อยู่ที่ 87.4% ของ GDP หดตัว 0.1% ซึ่งเป็นการหดตัวครั้งแรกเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) โดยหนี้สินครัว เรือนในไตรมาส 1/68 มีมูลค่า 16.35 ล้านล้านบาท - กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทย เดือนก.ค.68 ว่า การส่งออก มีมูลค่า 28,580 ล้าน ดอลลาร์ ขยายตัว 11% ส่วนการนำเข้า มีมูลค่า 28,258 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ไทยเกินดุลการค้า 322 ล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ การส่งออก ของไทย ขยายตัวต่อเนื่องกันเป็นเดือนที่ 13 และขยายตัวในระดับ 2 หลัก (digit) ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 นับตั้งแต่ ม.ค.68 และยัง เกินดุลการค้าต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 - ผู้อำนวยการ สนค. ระบุว่า ตั้งแต่เดือนส.ค.เป็นต้นไป การส่งออกของไทยน่าจะชะลอตัวลง แต่ยังขยายตัวเป็นบวกอยู่ ส่วนการจะปรับเป้าส่งออกทั้งปีนี้ใหม่นั้น จะขอหารือร่วมกับ กกร. และ สภาผู้ส่งออกก่อน โดยปัจจุบันยังคงเป้าไว้ที่ 2-3% แต่มีโอกาสที่ทั้ง ปี การส่งออกจะโตได้มากกว่านี้ แต่คงไม่สูงถึงระดับ 2 หลัก - สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ในเดือนก.ค. 68 ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป ได้ 72,439 คัน ลดลงจากเดือนที่แล้ว 17.76% และลดลงจากเดือนก.ค. 67 ที่ 13.27% จากการเลิกผลิตรถยนต์นั่งบางรุ่นที่ใช้น้ำมัน ขณะที่ยอดขาย รถยนต์ในประเทศเดือนก.ค. อยู่ที่ 49,102 คัน เพิ่มขึ้น 5.84% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) มี ราคาที่สามารถเข้าถึงได้มากกว่า - ฟิทช์ เรทติ้งส์ (Fitch Ratings) สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ ประกาศคงอันดับความน่าเชื่อถือสกุล เงินต่างประเทศระยะยาวของอินเดียไว้ที่ระดับ "BBB-" โดยให้เหตุผลว่า เศรษฐกิจอินเดียยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และมีเสถียรภาพ ด้านการเงินระหว่างประเทศ แม้ว่าการขยายตัวจะชะลอลงบ้างในช่วงสองปีที่ผ่านมาก็ตาม - ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้กล่าวถึงความสำคัญของการเป็นองค์กรอิสระของธนาคารกลาง และเจ้าหน้าที่ กำหนดนโยบายของธนาคารกลาง โดยเตือนว่า กลไกทางเศรษฐกิจมีความเสี่ยงที่จะทำงานอย่างผิดปกติ หากรัฐบาลเข้ามามีส่วนร่วมใน การกำหนดอัตราดอกเบี้ย - ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) กล่าวว่า การปรับขึ้นค่าจ้างในญี่ปุ่นกำลังขยายตัวเป็นวงกว้างนอกเหนือไปจากบริษัท ขนาดใหญ่ และคาดว่าค่าจ้างจะยังคงปรับตัวขึ้นอันเนื่องมาจากภาวะตลาดแรงงานที่ตึงตัว โดยการแสดงความเห็นดังกล่าวบ่งชี้ถึงมุมมอง เชิงบวกของผู้ว่าการ BOJ ว่า ภาวะตึงตัวในตลาดแรงงานซึ่งเป็นหนึ่งในเงื่อนไขสำหรับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งนั้น กำลังอยู่ในทิศทาง ที่เหมาะสม