สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ก.ย. 68)
นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ อยู่ที่ระดับ 32.35/36 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าเล็ก น้อยจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 32.33 บาท/ดอลลาร์ โดยระหว่างวัน เงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.33 - 32.45 บาท/ดอลลาร์ วันนี้เงินบาทและสกุลเงินส่วนใหญ่ใน ภูมิภาคเคลื่อนไหวอ่อนค่า ตามดอลลาร์ที่แข็งค่า หลังศาลอุทธรณ์ของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ตัดสินว่าการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าส่วนใหญ่ของ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย ซึ่งอาจนำไปสู่การต่อสู้คดีในศาลสูงสุด และมีแนวโน้มว่าทรัมป์ อาจต้องจ่ายภาษีที่เก็บมา คืน ซึ่งต้องหาเงินโดยการออกพันธบัตรรัฐบาล ทำให้วันนี้พันธบัตรรัฐบาลปรับตัวขึ้น และดอลลาร์แข็งค่า สำหรับปัจจัยการเมืองในประเทศวันนี้ ไม่ได้ส่งผลต่อเงินบาทมากนัก นักลงทุนยังรอติดตามการประชุมสภาฯ เพื่อโหวต นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ว่าจะเกิดขึ้นภายในสัปดาห์นี้หรือไม่ นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.25 - 32.50 บาท/ดอลลาร์ * ปัจจัยสำคัญ - เงินเยน อยู่ที่ระดับ 148.51/53 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 148.66 เยน/ดอลลาร์ - เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1658/1660 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1629 ดอลลาร์/ยูโร - ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,259.31 จุด ลดลง 10.53 จุด (+0.84%) มูลค่าการซื้อขาย 44,707.38 ล้านบาท - สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,889.90 ลบ.(SET+MAI) - ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประเมินว่าปี 68 อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ไทย จะขยายตัวได้ 1.8%-2.2% และคาดว่ามูลค่าการส่งออกปีนี้ จะขยายตัวได้ 2-3% อัตราเงินเฟ้อ อยู่ที่ 0.5-1.0% โดยในช่วงครึ่งปี หลัง เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวได้เพียง 1% โดยปัจจัยกดดันทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นจากความไม่แน่นอนทางการเมือง ซึ่งอาจกระทบ การเบิกจ่ายงบประมาณ รวมถึงการขาดความเชื่อมั่นในการตัดสินใจลงทุนของภาคเอกชนในระยะข้างหน้า และมีความเสี่ยงสูงขึ้นที่ประเทศ จะถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือ - รมว.คลัง กล่าวถึงกรณีที่ กกร.ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 68 จะขยายตัวได้เพียง 1% ว่า คงเป็น การประเมินโดยใช้ข้อมูลในช่วงก่อนมีข้อสรุปเรื่องอัตราภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ซึ่งหลังจากสถานการณ์ดังกล่าวชัดเจนขึ้นแล้ว จะเห็นว่า หลายสำนักต่างปรับประมาณการ GDP ของไทยปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 2% กว่าเกือบทั้งหมด แม้จะยังไม่มีความชัดเจนในภาคปฏิบัติของอัตราภาษี 19% ก็ตาม - รมว.คลัง กล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นขณะนี้ว่า จะไม่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นแต่อย่างใด แม้กิจกรรม ทางเศรษฐกิจอาจชะลอตัวลงบ้าง เพราะรอดูความชัดเจนของสถานการณ์ สำหรับผลกระทบต่อการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศ ยืน ยันว่าข้อมูลของประเทศตอนนี้ ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนไปจากเดิม ส่วนของความเชื่อมั่นของนักลงทุนนั้น ยืนยันว่าขณะนี้ไม่ได้มีปัญหา เพราะการ จะตัดสินใจเข้ามาลงทุน ไม่ได้ใช้เวลาพิจารณาแค่เดือนเดียว - ประธานที่ประชุมหารือวิป 2 ฝ่าย กล่าวว่า วันนี้ยังไม่มีข้อสรุปวันโหวตนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เนื่องจากต้องรอนายวันมูหะ มัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เคาะสรุป หากบรรจุระเบียบได้ภายในเวลา 16.30 น.วันนี้ คาดว่าจะสามารถโหวตนายก รัฐมนตรีได้อย่างเร็วสุด คือ วันที่ 5 ก.ย. ตามข้อบังคับ - บล.โกลเบล็ก ประเมินว่าราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวขึ้น จากความคาดหวังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตรา ดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.นี้ หลังประธานเฟด ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในงานการประชุมประจำปีของเฟด สอดคล้องกับ เครื่องมือ FedWatch Tool บ่งชี้ว่านักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 2 ครั้งในปีนี้ จากเดิมที่คาดว่าจะปรับ 3 ครั้ง โดยจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกในการประชุมเดือนก.ย. และต.ค. นี้ ซึ่งถือเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ - ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้เข้าพบนายกรัฐมนตรี ชิเงรุ อิชิบะ เพื่อหารือกันเกี่ยวกับประเด็นเศรษฐกิจและ ตลาดการเงิน ซึ่งรวมถึงประเด็นค่าเงิน หลังจากสกุลเงินเยนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่า BOJ ยังคงใช้ความระมัดระวังเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย - คืนนี้ สหรัฐฯ จะมีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ ได้แก่ ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรง งาน (JOLTS) เดือนก.ค., ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนก.ค. และรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลาง สหรัฐ (เฟด)