สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ก.ย. 68)
นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ อยู่ที่ระดับ 31.80 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าเล็ก
น้อยจากช่วงเช้าเปิดตลาดที่ระดับ 31.77 บาท/ดอลลาร์
ระหว่างวัน เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบแคบที่ 31.73-31.84 บาท/ดอลลาร์ จากที่ก่อนหน้านี้ แข็งค่าไปเร็วมากในช่วง 1-
2 วันที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าตอนนี้ตลาดคงรอปัจจัยใหม่ ๆ เข้ามา โดยปัจจัยในประเทศตอนนี้ ตลาดคงติดตามสถานการณ์ fund flow รวม
ทั้ง flow ทองคำ
ส่วนปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญนั้น คืนนี้ ตลาดรอติดตามการรายงานดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนส.ค.ของสหรัฐฯ ขณะที่คืน
พรุ่งนี้ ตลาดรอดูดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนส.ค. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
"ตลาดมองว่า รอบนี้เฟดคงลดดอกเบี้ยแน่อยู่แล้ว แต่จะรอดูการรายงานดัชนี PPI และ CPI เพื่อประเมินว่าเฟดจะลด
ดอกเบี้ยลงมากน้อยขนาดไหน 0.25% หรือ 0.50%" นักบริหารเงิน ระบุ
นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.60-31.85 บาท/ดอลลาร์
ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยน อยู่ที่ระดับ 147.41 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 147.47 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1710 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1690 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ 1,278.05 จุด เพิ่มขึ้น 1.97 จุด (+0.15%) มูลค่าซื้อขาย 42,552.94 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,806.12 ล้านบาท
- นายกรัฐมนตรี เปิดตัว 2 ว่าที่รัฐมนตรีทีมเศรษฐกิจ "เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ" ว่าที่รองนายกฯ และรมว.คลัง พร้อม
ด้วย "ศุภจี สุธรรมพันธุ์" ว่าที่ รมว.พาณิชย์ โดย 2 ว่าที่รัฐมนตรี ประกาศพร้อมเดินหน้านโยบายฟื้นเศรษฐกิจ ภายใต้ระยะเวลาการทำ
งานของรัฐบาลที่มีอยู่จำกัด ยอมรับแม้เป็นเรื่องที่ท้าทาย แต่ต้องทำเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ และประชาชน
- ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำไป
ต่อ หลังจาก Fedwatch Tool ให้น้ำหนักกว่า 90% ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดดอกเบี้ย 0.25-0.50% ในเดือนนี้ และ
คาดว่าในช่วงที่เหลือของปีเฟดจะลดดอกเบี้ยอีก 0.75% คาดว่าปีนี้ทองไทยน่าจะอยู่ที่ 56,000-57,000 บาท (บนค่าเงินบาท 31 บาท/
ดอลลาร์) จากก่อนหน้าคาดว่าทองไทยน่าจะแตะ 60,000 บาท (บนค่าเงินบาท 32.50 บาท/ดอลลาร์) จากปัจจุบันราคาทองคำปรับขึ้น
มากว่า 54,000 บาท เนื่องจากเงินบาทแข็งค่ามากขึ้น
- กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยตัวเลขการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้า ช่วงครึ่งแรกของปี 2568 มีมูลค่าการใช้สิทธิฯ รวม
44,785 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนการใช้สิทธิ FTA 79.64% เติบโตจากปีก่อน 10.22% พร้อมชูศักยภาพของตลาดอาเซียน จีน
และอินเดีย
- สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้
บริโภค ปรับตัวลง 0.4% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดในรอบ 6 เดือน
- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เรียกร้องให้สหภาพยุโรป (EU) เก็บภาษีศุลกากรจากอินเดีย และจีน ในอัตรา
สูงสุดถึง 100% เพื่อตอบโต้ที่ทั้งสองประเทศ ยังคงซื้อน้ำมันจากรัสเซีย
- ผู้พิพากษาศาลแขวงสหรัฐฯ ในวอชิงตัน มีคำตัดสินให้ระงับคำสั่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะถอดถอนลิซา คุก
ออกจากตำแหน่งสมาชิกคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งจะเปิดทางให้คุกสามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ในขณะที่เธอกำลังต่อสู้
ทางกฎหมายเพื่อขัดขวางความพยายามของปธน.ทรัมป์ที่สั่งปลดเธอในข้อกล่าวหาฉ้อโกง
- ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารเจพีมอร์แกน เชส (JPMorgan Chase) เปิดเผยว่า การที่กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ
ปรับลดการประเมินตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรในช่วงเวลา 1 ปี เป็นสิ่งยืนยันว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังชะลอตัวลง
- ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ที่จะมีการรายงานในช่วงที่เหลือของสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนส.
ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนส.ค.และ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนก.ย.