สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ก.ย. 68)
นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 31.80/81 บาท/ดอลลาร์ จากเปิดตลาดที่ ระดับ 31.84 บาท/ดอลลาร์ โดยระหว่างวันเคลื่อนไหวในกรอบ 31.78-31.87 บาท/ดอลลาร์ เงินบาททรงตัวจากช่วงเช้า ตลาดรอติดตามความคิดเห็นจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในสัปดาห์นี้ ประกอบกับรอดูตัว เลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาทิ ดัชนีราคา PCE เดือนส.ค. และตัวเลข GDP ไตรมาส 2/68 ช่วงปลายสัปดาห์ "ปัจจัยที่ยังทำให้เงินบาททรงตัว คือวันนี้ราคาทองคำที่พุ่งทะลุ 3,700 ดอลลาร์ อย่างไรก็ดี ดอลลาร์ปรับตัวแข็งค่า ทำให้ บาทที่ปกติต้องอ่อนค่ายังทรงตัว" นักบริหารเงิน กล่าว นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 31.75 - 31.95 บาท/ดอลลาร์ * ปัจจัยสำคัญ - เงินเยน อยู่ที่ระดับ 147.90 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 148.14 เยน/ดอลลาร์ - เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1766 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1730 ดอลลาร์/ยูโร - ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ 1,282.54 จุด ลดลง 10.18 จุด (-0.79%) มูลค่าซื้อขาย 31,595.35 ล้านบาท - สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,697.02 ล้านบาท - นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการหารือกับสมาคมธนาคารไทยว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับปัญหาหนี้สินของประชาชน หนี้ ครัวเรือน และหนี้เอสเอ็มอี พร้อมขอความร่วมมือจากสมาคมธนาคารไทยให้พิจารณาผ่อนปรน และเร่งเพิ่มสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจ เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการที่ยังมีศักยภาพสามารถผลิตและนำสินค้าสู่ตลาดได้ พร้อมมั่นใจว่า ทีมเศรษฐกิจ และสมาคมฯ จะนำผลการหารือ ในวันนี้ไปสู่การปฏิบัติให้เร็วที่สุด และจะเร่งเรื่องศักยภาพของประเทศไทย การเพิ่มมูลค่าในภาคท่องเที่ยวที่สร้างรายได้ให้กับประเทศไทย มากที่สุด - รมว.คลัง เปิดเผยว่า วันนี้ได้มีการพูดคุยกับสมาคมธนาคารไทย ถึงแนวทางความร่วมมือกันช่วยฟื้นเศรษฐกิจไทยให้เร็ว และยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และการแก้ปัญหาเก่า เช่น หนี้ครัว เรือน ส่วนประเด็นเรื่องการแข็งค่าของเงินบาท ที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจเป็นเงินสีเทาไหลเข้ามานั้น วานนี้ ตนได้ประสานกับทีมที่ กระทรวงการคลังให้ Connect the Dots ไว้แล้ว และวันนี้สมาคมฯ ก็มาฉายภาพให้เห็น และชี้จุดเดียวกันที่เราเจอ คือเรื่องค่าเงิน - ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงวันแถลงนโยบายของรัฐบาล ว่า ขึ้นอยู่กับการกำหนดของ รัฐบาล ซึ่งหลังจากวันที่ 24 ก.ย. 68 ที่รัฐบาลจะเข้าถวายสัตย์ฯ และประชุมครม. นัดพิเศษ จะแจ้งมายังสภาฯ ว่ารัฐบาลพร้อมที่จะ แถลงนโยบายวันใด ทั้งนี้ ถ้าหากทุกอย่างพร้อม ไม่มีอะไรติดขัด อาจจะเป็นวันที่ 1-2 ต.ค. โดยจะใช้เวลาทั้ง 2 วัน ซึ่งจะเท่ากับ รัฐบาลที่ผ่านมา แต่ทั้งหมดก็ต้องขึ้นอยู่กับข้อตกลงของวิปทั้ง 3 ฝ่าย - ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) ประเมินค่าเงินบาทสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 31.55-32.15 บาท/ ดอลลาร์ นักลงทุนรอติดตามความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟด และข้อมูลเงินเฟ้อ PCE เดือนส.ค. ของสหรัฐฯ ส่วนปัจจัยในประเทศ ธปท. ให้ ความเห็นว่า กำลังติดตามค่าเงินบาทอย่างใกล้ชิด และได้เข้าดูแลตลาดเพื่อชะลอการเคลื่อนไหวของเงินบาท ซึ่งเห็นได้จากการเพิ่มขึ้น ของทุนสำรองระหว่างประเทศ โดยในขณะนี้ยังไม่มีแผนที่จะนำภาษีทองคำมาใช้เนื่องจากต้องการหารือเพิ่มเติม ส่วนการแข็งค่าขึ้นอย่าง รวดเร็วของเงินบาทล่าสุด เป็นผลของเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง การเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของไทย การซื้อขายทองคำ และการเมือง - บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน & ฟิวเจอร์ส จำกัด ระบุว่า ราคาทองคำวันนี้ปรับตัวขึ้นทำ สถิติสูงสุดใหม่เหนือระดับ 3,710 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่ม เติม หลังจากสัปดาห์ก่อนมีการปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรกของปี และส่งสัญญาณว่าจะดำเนินมาตรการผ่อนคลายต่อเนื่องเพื่อตอบรับตลาดแรง งานที่อ่อนแอ ตามข้อมูลจาก CME FedWatch Tool นักลงทุนให้น้ำหนักสูงถึง 93% ที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ยอีก 0.25% ในเดือนต.ค. และ 81% สำหรับการประชุมเดือนธ.ค. ปัจจัยดังกล่าวช่วยเสริมแรงซื้อทองคำอย่างต่อเนื่อง - SCB CIO ได้แลกเปลี่ยนมุมมองการลงทุนกับ BlackRock ผู้เชี่ยวชาญการลงทุนระดับโลก โดยคาดว่า ธนาคารกลาง สหรัฐฯ (เฟด) จะลดดอกเบี้ยอีก 50 bps ในปีนี้ ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยสิ้นปีนี้ อยู่ที่ 3.50%-3.75% สอดคล้องกับตัวเลขการจ้างงานของ สหรัฐฯ ที่ยังคงอ่อนแอ - โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ประเมินว่า มาตรการของสหรัฐฯ ที่เก็บภาษีสินค้านำเข้า 20% สำหรับสินค้า เวียดนามตั้งแต่วันที่ 7 ส.ค. อาจทำให้เวียดนามสูญเสียมูลค่าการส่งออกไปสหรัฐฯ สูงสุดถึง 20% ซึ่งคิดเป็นมูลค่าราว 2.5 หมื่นล้าน ดอลลาร์ และทำให้เวียดนามกลายเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดในอาเซียน