ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 32.55 ตลาดรอปัจจัยใหม่ จับตาถ้อยแถลงประธานเฟดคืนนี้

          นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงิน
บาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 32.55 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าลงเล็กน้อยจากปิดวันก่อนที่ระดับ  32.52 บาท/ดอลลาร์
          โดยตั้งแต่คืนที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) เคลื่อนไหวอ่อนค่าลงเล็กน้อย ในลักษณะ Sideways Up สอดคล้องกับการ
เคลื่อนไหวไร้ทิศทางของปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อเงินบาท ไม่ว่าจะเป็นเงินดอลลาร์ และราคาทองคำ หลังผู้เล่นในตลาดต่างต้องการรับรู้
ปัจจัยใหม่ ๆ เพิ่มเติม ท่ามกลางภาวะ Data Blindness (ขาดการรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ) จากผลกระทบของภาวะ 
Government Shutdown ในสหรัฐฯ 
          โดยหลังจากนี้ ตลาดจะรอประเมินแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของบรรดาธนาคารกลางหลัก ทั้งธนาคารกลางสหรัฐ 
(เฟด) และ ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ผ่านถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางดังกล่าว โดยเฉพาะถ้อยแถลงของประธาน
เฟด Jerome Powell ที่จะรับรู้ในคืนนี้
          สำหรับแนวโน้มค่าเงินบาทนั้น โมเมนตัมการอ่อนค่าของเงินบาทยังมีกำลังอยู่ และเงินบาทได้กลับสู่แนวโน้มอ่อนค่าลง (อย่าง
น้อยในระยะสั้น) นอกจากนี้ หากเงินบาทสามารถอ่อนค่าทะลุโซนแนวต้าน 32.50 บาท/ดอลลาร์ ได้อย่างชัดเจน ก็อาจเพิ่มโอกาสที่เงิน
บาทจะสามารถอ่อนค่าลงทดสอบโซนแนวต้านถัดไป 32.65 บาท/ดอลลาร์ ได้ โดยเฉพาะในกรณีที่เผชิญปัจจัยกดดันฝั่งอ่อนค่าเพิ่มเติม 
เช่น ราคาทองคำเข้าสู่ช่วงการปรับฐาน 
          นายพูน คาดกรอบเงินบาทวันนี้จะอยู่ที่ระดับ 32.45-32.65 บาท/ดอลลาร์ 
          SPOT ล่าสุด อยู่ที่ระดับ 32.59125 บาท/ดอลลาร์

          * ปัจจัยสำคัญ

          - เงินเยน อยู่ที่ระดับ 152.51 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานที่ระดับ 152.99 เยน/ดอลลาร์
          - เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1640 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานที่ระดับ 1.1600 ดอลลาร์/ยูโร
          - อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท. อยู่ที่ระดับ 32.473 บาท/ดอลลาร์
          - นายกฯ ตั้งเป้าประเทศไทยคืนบัลลังก์เป็นผู้นำในภูมิภาคอาเซียนทุกมิติ แย้มก่อนยุบสภาเตรียมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
เฟส 1-2 บวกท่องเที่ยว หวังกระจาย รายได้-วางรากฐานการค้าขายให้มั่นคงแข็งแกร่ง ยันปัญหาเศรษฐกิจไทยขยายตัวไม่ต่อเนื่องไม่
เกี่ยวปมการเมือง เล็งสร้างระบบตรวจสอบการทุจริตดึงประเทศไทยไม่พัฒนา
          - คณะกรรมการนโยบายการเงิน (FPC) ของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ออกคำเตือนถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของการปรับ
ฐานอย่างฉับพลันของตลาดหุ้นทั่วโลก ขณะที่ BoE แสดงความกังวลต่อการพุ่งขึ้นของมูลค่าบริษัทเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ 
(AI)
          - รายงานการประชุมประจำวันที่ 16-17 ก.ย.ของเฟดระบุว่า การที่ตลาดแรงงานของสหรัฐฯ เผชิญกับความเสี่ยงมากขึ้น
นั้น ถือเป็นเหตุผลเพียงพอที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย แต่กรรมการเฟดก็ยังคงระมัดระวังเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อสูง นอกจากนี้ แม้ว่ากร
รมการเฟดส่วนใหญ่เห็นพ้องว่าเป็นเรื่องเหมาะสมที่เฟดจะเดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในปีนี้ แต่กรรมการเฟดไม่ได้ระบุถึงช่วงเวลา
ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม
          - การปิดหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ ได้ล่วงเข้าสู่วันที่ 8 ส่งผลให้ไม่มีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ ซึ่งทำให้นักลงทุน
หันไปติดตามรายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ของบริษัทจดทะเบียนซึ่งจะเริ่มต้นขึ้นในสัปดาห์หน้า ตลาดจนรายงานการประชุมประจำ
เดือนก.ย.ของเฟด
          - ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (8 ต.ค.) หลัง
จากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ระบุว่า แม้กรรมการเฟดยังคงสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม แต่ก็มี
ท่าทีระมัดระวังเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อ ขณะที่เงินเยนอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่แผ่วลงเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่
ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ หลังจากซานาเอะ ทาคาอิจิ ซึ่งมีจุดยืนสนับสนุนการผ่อนคลายนโยบายการ
เงิน ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) และเตรียมก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของญี่ปุ่น
          - สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันพุธ (8 ต.ค.) โดยราคาทองคำทำสถิติสุงสุดอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางกระแสคาด
การณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนด้านเศรษฐกิจและภูมิรัฐ
ศาสตร์ยังเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
          - ราคาทองยังคงพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อวานนี้ (8 ต.ค.) ส่งผลให้ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนในปีนี้มากกว่าการลง
ทุนในหุ้น, บิตคอยน์, น้ำมัน และดอลลาร์สหรัฐ ราคาทองคำทะยานขึ้น 54% นับตั้งแต่ต้นปี 2568 ขณะบิตคอยน์ดีดตัวขึ้น 30.6% ดัชนีดาว
โจนส์บวก 9.5% ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ดิ่งลง 11.8% และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 6.2%
          - ยูบีเอสออกรายงานคาดการณ์ว่าราคาทองคำจะยังคงปรับตัวขึ้นต่อไป โดยราคาจะแตะระดับ 4,200 ดอลลาร์/ออนซ์ภาย
ในสิ้นปีนี้ ขณะที่โกลด์แมน แซคส์ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาทองสู่ระดับ 4,900 ดอลลาร์/ออนซ์ภายในเดือนธ.ค.2569 จากเดิมที่ระดับ 
4,300 ดอลลาร์/ออนซ์
          - ตลาดจับตาถ้อยแถลงของประธานเฟด ที่มีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมว่าด้วยธนาคารชุมชนที่กรุงวอชิงตัน ดีซี เพื่อ
หาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด รวมทั้งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐจากภาวะชัตดาวน์
          - ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ที่จะมีการรายงานในช่วงที่เหลือของสัปดาห์นี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานราย
สัปดาห์ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนต.ค.