รัฐบาลมาเลเซียส่งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจราว 16,000 นายรักษาความปลอดภัยในระหว่างวันที่ 23-28 ต.ค.สำหรับการประชุมสุดยอดสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ครั้งที่ 47 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ และการประชุมที่เกี่ยวข้อง
กรุงกัวลาลัมเปอร์จะมีการจัดการจราจรอย่างเข้มงวดตั้งแต่วันที่ 23 ต.ค. ซึ่งจะเริ่มมีการจัดการประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียน และเจ้าหน้าที่อาวุโสสำหรับเตรียมการประชุมสุดยอดที่จะเริ่มขึ้นในวันที่ 26 ต.ค. โดยจะมีการปิดถนนเป็นช่วง ๆ มีการเบี่ยงเส้นทาง และมีการใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด โดยเฉพาะตั้งแต่วันที่ 26 ต.ค. ซึ่งเป็นช่วงที่ผู้นำโลกเริ่มเดินทางมาถึงกรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยถนนสายหลักและทางด่วนสำคัญหลายสายจะถูกปิดชั่วคราวเป็นระยะ ๆ ครั้งละ 30-45 นาที เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ขบวนรถของผู้นำระดับสูง
ทั้งนี้ เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อการจราจร กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศให้โรงเรียนจำนวน 102 แห่งในกัวลาลัมเปอร์และรัฐสลังงอร์ เปลี่ยนไปเรียนแบบระบบออนไลน์ระหว่างวันที่ 23-29 ต.ค.
นอกจากนี้ กรมบริการสาธารณะได้อนุญาตให้หัวหน้าส่วนราชการสามารถอนุมัติให้เจ้าหน้าที่ซึ่งพักอาศัยอยู่ในรัศมีไม่เกิน 25 กิโลเมตรจากที่ทำงาน สามารถทำงานจากที่บ้าน (WFH) ได้ โดยเฉพาะผู้ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากการปิดถนน
ขณะเดียวกัน กระทรวงทรัพยากรมนุษย์ได้ขอความร่วมมือให้นายจ้างภาคเอกชนพิจารณาการทำงานแบบยืดหยุ่นในช่วงเวลาดังกล่าว เพื่อลดความแออัดบนท้องถนน และคงประสิทธิภาพในการทำงาน
ทั้งนี้ คาดว่าการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 47 ภายใต้ธีม "การมีส่วนร่วมและความยั่งยืน" (Inclusion and Sustainability) จะเป็นการประชุมครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของอาเซียน นับตั้งแต่ที่มีการจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 2519 โดยจะมีผู้นำระดับโลกเข้าร่วมการประชุม ได้แก่ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ, ประธานาธิบดี ลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ผู้นำบราซิล, ประธานาธิบดีไซริล รามาโฟซา ผู้นำแอฟริกาใต้, นายมาร์ก คาร์นีย์ นายกรัฐมนตรีแคนาดา, นางจอร์เจีย เมโลนี นายกรัฐมนตรีอิตาลี และนางซานาเอะ ทาคาอิจิ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น
นอกจากนี้ ตัวแทนจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และธนาคารโลกจะเข้าร่วมการประชุมเช่นกัน
หนึ่งในไฮไลต์ของการประชุมคือ พิธีลงนามประกาศความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา โดยมีปธน.ทรัมป์และนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เป็นสักขีพยาน รวมทั้งพิธีลงนามในปฏิญญาว่าด้วยการรับติมอร์-เลสเตเข้าเป็นสมาชิกอาเซียน
การประชุมจะปิดฉากในวันที่ 28 ต.ค.ด้วยพิธีปิดการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 47 โดยจะมีพิธีส่งมอบตำแหน่งประธานอาเซียนให้แก่ฟิลิปปินส์ ขณะที่นายอันวาร์จะกล่าวปิดการประชุม
ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ มีกำหนดเดินทางถึงมาเลเซียในวันที่ 26 ต.ค.เพื่อเข้าร่วมพิธีเปิดการประชุมสุดยอดอาเซียนในวันดังกล่าว ก่อนที่จะเดินทางเยือนญี่ปุ่นในวันที่ 27-29 ต.ค. โดยมีกำหนดเข้าเฝ้าสมเด็จพระจักรพรรดินารูฮิโตะ และพบกับนางซานาเอะ ทาคาอิจิ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่น
นายอันวาร์กล่าวว่า นายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย จะไม่เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน เนื่องจากติดภารกิจอื่น โดยจะส่งนายเอส ไจชังการ์ รัฐมนตรีต่างประเทศของอินเดีย เป็นตัวแทนเข้าร่วมการประชุม
อย่างไรก็ดี นายโมดีจะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-อินเดียในรูปแบบออนไลน์
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ไม่สามารถเดินทางมาเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนเช่นกัน โดยจะส่งนายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย เป็นตัวแทนเข้าร่วมการประชุม
ส่วนนายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน จะเป็นตัวแทนของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ในการเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว