รัสเซียส่งคณะผู้แทนชุดใหญ่กระชับสัมพันธ์จีน หลัง "ทรัมป์" จูบปาก "สี จิ้นผิง"

รัสเซียส่งคณะผู้แทนชุดใหญ่ไปยังจีนในวันนี้ (3 พ.ย.) เพื่อเจรจาและทำข้อตกลงทวิภาคี

เจ้าหน้าที่รัสเซียแสดงท่าทีกระตือรือร้นในการย้ำความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับจีน หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ได้พบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยปธน.ทรัมป์เรียกว่าเป็นการพบปะที่ยอดเยี่ยม

ทั้งนี้ นายมิคาอิล มิชูสติน นายกรัฐมนตรีรัสเซีย เดินทางถึงเมืองหางโจวในวันนี้ เพื่อเจรจาเป็นเวลา 2 วันกับนายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน โดยทั้งสองฝ่ายได้ลงนามในข้อตกลงหลายฉบับเพื่อกระชับความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน พลังงาน คมนาคม เกษตรกรรม และอวกาศ

นายมิชูสตินเรียกนายหลี่ว่าเป็น "มิตรที่รัก" พร้อมกล่าวว่า ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและจีนกำลังอยู่ในจุดสูงที่สุดในประวัติศาสตร์หลายศตวรรษของทั้งสองประเทศ และยังคงพัฒนาอย่างรวดเร็วในทุกด้าน แม้จะเผชิญกับอุปสรรคและการคว่ำบาตรจากชาติตะวันตก

ด้านนายหลี่กล่าวว่า จีนพร้อมที่จะเสริมสร้างความร่วมมือกับรัสเซีย แม้จะเผชิญอุปสรรคก็ตาม

'แม้จะมีความเสี่ยงและความท้าทายใหม่ ๆ จากภายนอก จีนและรัสเซียยังคงสนับสนุนซึ่งกันและกัน สร้างความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ และมุ่งมั่นที่จะเอาชนะอุปสรรคไปด้วยกัน' นายหลี่กล่าว และเสริมว่า ความเป็นหุ้นส่วนนี้ แสดงให้เห็นว่าจีนและรัสเซียเป็นเพื่อนบ้านที่ดีและพันธมิตรที่เชื่อถือได้ ซึ่งสามารถไว้วางใจกันได้เสมอ

การเยือนจีนของเจ้าหน้าที่รัสเซียดังกล่าว เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังการพบปะกันระหว่างปธน.ทรัมป์และปธน.สี ซึ่งผู้นำสหรัฐกล่าวว่า ทั้งสองได้บรรลุข้อตกลงในหลายประเด็น ขณะที่ปธน.สีระบุว่า จีนและสหรัฐควรเป็นหุ้นส่วนและมิตรที่ดีต่อกัน

การเจรจาครั้งนี้ถูกมองว่าเป็น "การพักรบทางการค้า" โดยปธน.ทรัมป์ประกาศว่าได้ทำข้อตกลงระยะเวลา 1 ปีเกี่ยวกับการจัดหาแร่ธาตุหายากจากจีน ขณะที่สหรัฐจะลดภาษีศุลกากรที่เกี่ยวข้องกับยาเฟนทานิลจากจีนลงครึ่งหนึ่ง ทำให้อัตราภาษีรวมต่อสินค้าจีนลดลงสู่ระดับ 47%

รัสเซียยังไม่ได้แสดงความเห็นต่อการพบปะดังกล่าว แต่มีการคาดกันว่า รัสเซียอาจรู้สึกไม่สบายใจที่เห็นจีนมีการพูดคุยเชิงสร้างสรรค์กับสหรัฐ หลังจากที่ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและสหรัฐได้ย่ำแย่ลงในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา

ปธน.ทรัมป์ประกาศยกเลิกการประชุมแบบพบหน้ากันกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย โดยระบุว่า ไม่ต้องการเสียเวลาไปกับการประชุมที่ไร้ประโยชน์ ซึ่งแสดงถึงความไม่พอใจต่อรัสเซียที่ไม่มีความคืบหน้าในประเด็นสงครามยูเครน

ปธน.ทรัมป์ยังกล่าวอีกว่า 'ทุกครั้งที่ผมคุยกับวลาดิเมียร์ การสนทนามักเป็นไปด้วยดี แต่ก็ไม่เคยนำไปสู่อะไรเลย'