ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 32.41/44 แกว่งแคบ ไร้ปัจจัยใหม่ คาดกรอบพรุ่งนี้ 32.30-32.60 จับตารายงานเฟดคืนนี้

           นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 32.41/44 บาท/ดอลลาร์ จากเปิด
ตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 32.38 บาท/ดอลลาร์ โดยระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 32.30-32.50 บาท/ดอลลาร์
          เงินบาทวันนี้ยังไร้ปัจจัยใหม่ เงินบาทและสกุลเงินในภูมิภาคยังเคลื่อนไหวในกรอบนิ่ง ๆ ตลาดรอติดตามรายงานผลการ
ประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) คืนนี้เป็นหลัก
          นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 32.30-32.60 บาท/ดอลลาร์

          ปัจจัยสำคัญ

          - เงินเยน อยู่ที่ระดับ 155.80/95 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 155.45 เยน/ดอลลาร์ 
          - เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1570 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1580 ดอลลาร์/ยูโร
          - ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ 1,272.17 จุด เพิ่มขึ้น 2.13 จุด (+0.17%) มูลค่าซื้อขาย 30,423.09 ล้านบาท
          - สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,460.73 ล้านบาท 
          - ที่ประชุมพิจารณากำหนดวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2570 เห็นชอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี
งบประมาณ 2570 วงเงิน 3.788 ล้านล้านบาท รายได้ 3 ล้านล้านบาท งบขาดดุล 7.88 แสนล้านบาท หรือ 3.9% ต่อจีดีพี ลดลงจากปี
ก่อนที่ขาดดุลงบประมาณ 4.4% และมีแนวโน้มที่จะลดการขาดดุลลงต่อเนื่องภายในอีก 3-4 ปีข้างหน้าให้เหลือไม่เกิน 3%
          - เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า การลงทุนในไทยในปี 2568 เติบโตอย่างต่อเนื่อง 
โดยช่วง 9 เดือนปีนี้ (ม.ค.-ก.ย.) มีคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากบริษัทที่มีหุ้นไทยข้างมากจำนวน 840 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน
รวมกว่า 447,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 99% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
          - สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม เดือนต.ค.68 อยู่ที่ระดับ 87.3 
ปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากระดับ 87.8 ในเดือนก.ย. 68 การปรับลดลงดังกล่าว เป็นผลมาจากหลายปัจจัย เช่น การส่งออก
สินค้าคงทนปรับตัวลดลง โดยเฉพาะในหมวดรถยนต์สันดาป และเครื่องปรับอากาศ จากอุปสงค์ที่ชะลอตัวในตลาด
ออสเตรเลีย และสหรัฐอเมริกา รวมถึงผลิตภัณฑ์ไม้ในตลาดจีน และมาเลเซีย ที่มีคำสั่งซื้อลดลงอย่างต่อเนื่อง
          - สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษเปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหราชอาณาจักร (UK) ชะลอตัวลงสู่
ระดับ 3.6% ในเดือนต.ค. จากระดับ 3.8% ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 18 เดือน โดยตัวเลขดังกล่าวเป็นการปรับตัวลง
ครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ค. และช่วยลดแรงกดดันต่อรัฐบาลรวมถึงธนาคารกลางอังกฤษ (BoE)
          - นักเศรษฐศาสตร์จากสถาบันวิจัยโนมูระ ประเมินว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นอาจสูญรายได้ราว 1.49 ล้านล้านเยน (ประมาณ 
9.59 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในช่วงปีหน้า หากนักท่องเที่ยวจีนยังคงเลี่ยงการเดินทางเที่ยวญี่ปุ่น ท่ามกลางความตึงเครียดทางการทูต
เกี่ยวกับประเด็นไต้หวัน
          - กระทรวงการคลังสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ยอดการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ โดยต่างชาติในเดือนก.ย. อยู่ที่ระดับ 
9.249 ล้านล้านดอลลาร์ ลดลงเล็กน้อยจากระดับ 9.262 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 6 เดือน
          - หนึ่งในสมาชิกคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ได้สนับสนุนให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในการประชุมเดือน
ธ.ค. โดยกล่าวว่าเขาเริ่มกังวลเกี่ยวกับตลาดแรงงานและการชะลอตัวอย่างรวดเร็วของการจ้างงาน
          - คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟดจะจัดการประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 9-10 ธ.ค.นี้ ขณะที่ตลาดมี
ความเห็นที่แตกต่างกันว่าเฟดจะดำเนินการไปในทิศทางใด หลังจากที่เฟดได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมทั้งในเดือนก.ย.
และเดือนต.ค.