ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดบวก กลุ่มอุตฯ-ยานยนต์หนุนตลาด คาดเฟดลดดอกเบี้ย

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันพฤหัสบดี (4 ธ.ค.) โดยปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่สาม ท่ามกลางบรรยากาศการลงทุนที่ดีขึ้นจากความคาดหวังว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้า ขณะที่นักลงทุนประเมินผลประกอบการที่หลากหลายของบริษัทต่าง ๆ

ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 578.84 จุด เพิ่มขึ้น 2.62 จุด หรือ +0.45%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 8,122.03 จุด เพิ่มขึ้น 34.61 จุด หรือ +0.43%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 23,882.03 จุด เพิ่มขึ้น 188.32 จุด หรือ +0.79% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 9,710.87 จุด เพิ่มขึ้น 18.80 จุด หรือ +0.19%

หุ้นกลุ่มยานยนต์พุ่งขึ้น 2.2% โดยหุ้น Porsche และหุ้น Mercedes-Benz พุ่งขึ้น 5.7% และ 4.4% ตามลำดับ หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เสนอปรับลดมาตรฐานประหยัดพลังงาน ซึ่งจะเอื้อต่อการขายรถยนต์ใช้น้ำมันให้ทำได้ง่ายขึ้น

หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 1.4% โดยหุ้น Schneider Electric และหุ้น Siemens Energy พุ่งขึ้น 3.2% และ 2.5% หลังจาก J.P. Morgan ปรับเพิ่มคำแนะนำลงทุนหุ้นทั้งสองเป็น "overweight" จาก "neutral"

ความเชื่อมั่นต่อการปรับลดดอกเบี้ยของเฟดเป็นอีกปัจจัยช่วยหนุนตลาด แม้ว่าตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ จะลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 ปี แต่ไม่ได้ทำให้ตลาดปรับลดคาดการณ์เรื่องการลดดอกเบี้ย

นักวิเคราะห์จาก City Index ชี้ว่า บรรยากาศการลงทุนเริ่มกลับมาเป็นบวกมากขึ้น ขณะที่ตลาดมองว่าอาจได้เห็นประธานเฟดคนใหม่ที่มีท่าทีผ่อนคลายมากขึ้นในปีหน้า

ดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเพิ่มขึ้น 0.7% โดยหุ้น SAP บวก 1.7% หลังได้รับคำแนะนำลงทุนเป็น "overweight" จาก J.P. Morgan ขณะที่ Capgemini พุ่งขึ้น 4.2% หลังถูกปรับคำแนะนำลงทุนเป็น "neutral"

หุ้นเซมิคอนดักเตอร์ในยุโรปปรับตัวขึ้นอย่างคึกคัก โดยหุ้น STMicroelectronics และ Soitec พุ่งขึ้น 3.4% และ 2.7% ตามลำดับ หลังมีรายงานว่าผู้ผลิตชิปจีน Cambricon มีแผนเพิ่มกำลังผลิตชิปถึง 3 เท่าเพื่อทดแทน Nvidia ในตลาด AI ของจีน ซึ่งช่วยหนุนมุมมองเชิงบวกต่ออุตสาหกรรมชิปในยุโรป

หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้น 1.1% หลังร่วงในวันพุธ ส่วนหุ้นกลุ่มป้องกันประเทศเพิ่มขึ้น 0.9% ท่ามกลางความไม่แน่นอนของการเจรจาสันติภาพยูเครน โดยทรัมป์ระบุว่ายังไม่ชัดเจนว่าการพูดคุยจะเดินหน้าอย่างไร

ขณะที่หุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ลดลง 0.6% โดยหุ้น Philips ดิ่งลง 5.6% หลัง Citi แสดงความกังวลต่อแนวโน้มการเติบโตของบริษัทในปี 2569

หุ้น Societe Generale พุ่งขึ้น 3.2% หลัง Goldman Sachs ปรับคำแนะนำลงทุนเป็น "buy" ขณะที่หุ้นกลุ่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น หุ้น Remy Cointreau และหุ้น Diageo ร่วง 2.1% และ 3.9% หลังถูก UBS ปรับลดคำแนะนำลงทุน