สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ธ.ค. 68)
นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ อยู่ที่ระดับ 31.52 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวจาก
ช่วงเช้าเปิดตลาดที่ระดับ 31.52 บาท/ดอลลาร์
วันนี้เงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบเพียงแค่ 6 สตางค์ ในช่วง 31.49-31.55 บาท/ดอลลาร์ และยังเคลื่อนไหวสอด
คล้องกับสกุลเงินในภูมิภาค
โดยคืนนี้ ตลาดรอดูการรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ เดือนต.ค. และพ.ย. ส่วนวันพรุ่งนี้ รอ
ติดตามผลประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ซึ่งมองว่ามีโอกาสที่ กนง.จะลดดอกเบี้ยลง 0.25% มาอยู่ที่ 1.25%
"ถ้าตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ออกมาไม่ดี ก็มีโอกาสที่บาทจะแข็งค่าต่อได้อีก รวมทั้งต้องรอดูมติดอกเบี้ย
ของ กนง.ด้วย ซึ่งคาดว่ารอบนี้คงจะลดดอกเบี้ย" นักบริหารเงิน ระบุ
นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.40-31.60 บาท/ดอลลาร์
* ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยน อยู่ที่ระดับ 154.86 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 155.06 เยน/ดอลลาร์
- เงินเยน อยู่ที่ระดับ 1.1755 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1748 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ 1,260.68 จุด ลดลง 12.72 จุด (-1.00%) มูลค่าซื้อขาย 30,835.38 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 353.03 ล้านบาท
- ผู้ว่าฯ ธปท. ห่วงบาทแข็งค่าเร็ว-แรง สั่งแบงก์พาณิชย์ตรวจสอบเอกสารในธุรกรรมการขายเงินตราต่างประเทศ เพื่อ
แลกซื้อเงินบาทของธุรกิจทองคำอย่างเข้มงวด และอยู่ระหว่างการขอให้ออกประกาศกระทรวงการคลัง เพื่อให้อำนาจ ธปท. ในการเรียก
ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายเงินตราต่างประเทศจากผู้ค้าทองคำรายใหญ่ รวมทั้งเพิ่มความเข้มงวดในการกำกับธุรกรรมการขายเงิน
ดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อซื้อเงินบาท
- ธปท. ขีดเส้นให้ผู้ประกอบธุรกิจการให้เช่าซื้อ และการให้เช่าแบบลีสซิ่งรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ทุกราย ต้องรายงาน
ตัวภายในสิ้นเดือนมี.ค.69
- รมว.คลัง ยอมรับว่า คงไม่สามารถดำเนินโครงการ "คนละครึ่ง พลัส" เฟส 2 ได้แล้ว ภายหลังจากได้มีการหารือกับ
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งยืนยันว่าไม่น่าจะทำได้ เพราะติดขัดเรื่องข้อกฎหมาย เนื่องจากตามรัฐธรรมนูญแล้ว คณะ
รัฐมนตรี (ครม.) รักษาการจะไม่สามารถผูกพันงบประมาณได้
- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในวันศุกร์นี้ (19 ธ.ค.) สู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 30 ปี และ
ส่งสัญญาณพร้อมเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป แม้ต้องเผชิญแรงกดดันจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ รวมถึงการเข้ารับตำแหน่งของ
นายกรัฐมนตรีที่มีท่าทีผ่อนคลายนโยบายการเงิน
- ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิต-ภาคบริการขั้นต้นของยูโรโซน ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 51.9 ในเดือนธ.
ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน เนื่องจากภาคการผลิตมีการหดตัวรุนแรงขึ้น ขณะที่การขยายตัวในภาคบริการ ซึ่งเป็นภาคส่วนหลัก
เริ่มชะลอตัวลง
- อัตราการว่างงานของสหราชอาณาจักร (UK) ปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 5 ปี ขณะที่การเติบโตของค่าจ้าง
ชะลอตัวลง ซึ่งข้อมูลดังกล่าว เป็นปัจจัยสำคัญที่ตอกย้ำมุมมองของตลาดว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ย
นโยบายในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินในสัปดาห์นี้
- บริษัทนาสแดก อิงค์ (Nasdaq Inc) ซึ่งเป็นตลาดหลักทรัพย์รายใหญ่อันดับ 2 ของสหรัฐฯ ได้ยื่นขออนุมัติจากคณะ
กรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) เพื่อเพิ่มช่วงเวลาซื้อขายในตลาดหุ้น Nasdaq จากเดิม 16 ชั่วโมง เป็น
23 ชั่วโมงในช่วงสัปดาห์ทำการ
- คืนนี้ สหรัฐฯ จะมีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ ได้แก่ ตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนรายสัปดาห์, ตัวเลขจ้าง
งานนอกภาคเกษตรเดือนต.ค.และเดือนพ.ย., ยอดค้าปลีกเดือนต.ค., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต-ภาคบริการขั้นต้น
เดือนธ.ค.