PMI ยูโรโซนเดือนธ.ค. ร่วงแตะโลว์ในรอบ 3 เดือน เหตุภาคการผลิตหดตัว-บริการชะลอ

ผลสำรวจดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของยูโรโซนจาก HCOB ซึ่งจัดทำโดยเอสแอนด์พี โกลบอล (S&P Global) เปิดเผยในวันนี้ (16 ธ.ค.) ว่า กิจกรรมทางธุรกิจในเขตยูโรโซนชะลอตัวลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ในช่วงสิ้นปี 2568

ดัชนี PMI รวมภาคการผลิต-ภาคบริการขั้นต้นของยูโรโซน ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 51.9 ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน จากระดับ 52.8 ในเดือนพ.ย. เนื่องจากภาคการผลิตมีการหดตัวรุนแรงขึ้น ขณะที่การขยายตัวในภาคบริการซึ่งเป็นภาคส่วนหลักเริ่มชะลอตัวลง

ตัวเลขดังกล่าวต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตาม ดัชนียังคงอยู่เหนือระดับ 50.0 ซึ่งเป็นเกณฑ์บ่งชี้ถึงการขยายตัว ส่งผลให้ปี 2568 เป็นปีปฏิทินแรกนับตั้งแต่ปี 2562 ที่ดัชนียืนเหนือระดับดังกล่าวได้ตลอดทั้งปี

ทั้งนี้ กลุ่มยูโรโซนยังคงรักษาสถานภาพที่แข็งแกร่งได้เกือบตลอดทั้งปี แม้ต้องเผชิญกับกำแพงภาษีของสหรัฐฯ ที่สูงขึ้นและความไม่แน่นอนทั่วโลกก็ตาม

ไซรัส เดอ ลา รูเบีย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากฮัมบูร์ก คอมเมอร์เชียล แบงก์ (HCOB) กล่าวว่า ผลการดำเนินงานที่อ่อนแอลงมีสาเหตุหลักมาจากภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีที่ภาวะขาลงทวีความรุนแรงขึ้น ในทางกลับกัน ฝรั่งเศสเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวในภาคอุตสาหกรรมอย่างระมัดระวัง แม้ว่าจะไม่ควรให้ความสำคัญกับตัวเลขรายเดือนเพียงเดือนเดียวมากเกินไป โดยสรุปแล้ว ทิศทางเศรษฐกิจในช่วงรอยต่อสู่ปีใหม่อาจขาดเสถียรภาพ

รายงานระบุว่า กิจกรรมภาคการผลิตหดตัวเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน โดยดัชนี PMI ภาคการผลิตขั้นต้นลดลงสู่ระดับ 49.2 ในเดือนธ.ค. จากระดับ 49.6 ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 49.9 ส่วนดัชนีวัดผลผลิตหดตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 10 เดือน และยอดคำสั่งซื้อใหม่ลดลงด้วยอัตราที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.

ขณะเดียวกัน ภาคบริการยังคงเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แต่การเติบโตชะลอตัวลง โดยดัชนี PMI ภาคบริการขั้นต้นลดลงสู่ระดับ 52.6 ในเดือนธ.ค. จากระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีครึ่งที่ 53.6 ในเดือนพ.ย. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 53.3 ซึ่งเดอ ลา รูเบีย กล่าวเสริมว่า ภาคบริการจะยังคงมีบทบาทในการสร้างเสถียรภาพให้กับเศรษฐกิจในปีหน้า แต่การฟื้นตัวอย่างแท้จริงจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อภาคการผลิตกลับมาฟื้นตัว

ทั้งนี้ ความเชื่อมั่นโดยรวมต่อกิจกรรมในอนาคตลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. แต่ภาคธุรกิจยังคงขยายอัตราการจ้างงานเพิ่มขึ้น ในขณะที่แรงกดดันด้านราคาเพิ่มสูงขึ้น โดยต้นทุนปัจจัยการผลิตและราคาค่าบริการปรับตัวสูงขึ้น

ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปยังคงอยู่ใกล้เคียงกับเป้าหมาย 2% ของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งเป็นที่คาดการณ์ว่า ECB จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้จนถึงปี 2570 เป็นอย่างน้อย