
SET ปิดเช้าวันนี้ที่ 1,253.65 จุด บวก 3.58 จุด (+0.29%) มูลค่าซื้อขายราว 15,281 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยเช้านี้ดัชนีปรับขึ้นตามภูมิภาค หลังเงินเฟ้อสหรัฐฯ ต่ำคาดหนุนโอกาสที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้ต่อ อย่างไรก็ตามใกล้จุดสิ้นสุดดอกเบี้ยขาลง เป็นแรงกดดันกลุ่มไฟแนนซ์ อย่างไรก็ตามกลุ่มธนาคารได้รับแรงหนุนระยะสั้นจากแนวโน้มดอกเบี้ยขาลงใกล้สิ้นสุด แนวโน้มช่วงบ่ายคาดดัชนีผันผวน โดยให้กรอบแนวรับ 1,250 จุด แนวรับถัดไป 1,230 จุด และแนวต้าน 1,260 จุด แนวต้านถัดไป 1,280 จุด
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ 1,253.65 จุด บวก 3.58 จุด (+0.29%) มูลค่าซื้อขายราว 15,281 ล้านบาท
การซื้อขายช่วงเช้า ดัชนีปรับตัวขึ้น โดยทำจุดสูงสุด 1,257.50 จุด และทำจุดต่ำสุด 1,248.35 จุด
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่าตลาดหุ้นไทยเช้านี้ดัชนีปรับตัวขึ้นตามภูมิภาค หลังการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่ต่ำกว่าคาด ทำให้นักลงทุนมีความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้ต่อ อย่างไรก็ตามแม้ว่าดอกเบี้ยอาจปรับลงได้อีก แต่ใกล้จุดสิ้นสุดแนวโน้มดอกเบี้ยขาลง โดยคาดว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยได้อีก 2-3 ครั้ง ขณะที่ดอกเบี้ยไทยคาดลดอีก 1 ครั้ง ด้านธนาคารกลางยุโรป (ECB) ให้ความเห็นว่าวงจรดอกเบี้ยขาลงมีแนวโน้มจบลงแล้ว
สถานการณ์ดังกล่าวสะท้อนว่าโอกาสในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในระยะถัดไปมีไม่มาก และโอกาสที่ต้นทุนทางการเงินจะลดลงจากระดับปัจจุบันไม่ได้มาก ซึ่งกระทบต่อกลุ่มการเงิน ซึ่งวานนี้กลุ่มไฟแนนซ์ปรับตัวลดลง ถูกกดดันจากโอกาสที่ต้นทุนการเงินไม่ลดลง การเติบโตของสินเชื่ออาจชะลอ รวมทั้งการเติบโตของเศรษฐกิจในระยะถัดไปทำให้เกิดความกังวลว่าจะกระทบต่อการจัดเก็บหนี้ เป็นปัจจัยกดดันกลุ่มไฟแนนซ์
ขณะที่กลุ่มธนาคาร ระยะสั้นราคาหุ้นปรับตัวขึ้นต่อได้ เนื่องจากประเด็นส่วนต่างดอกเบี้ยที่จะลดลงไม่ได้กดดัน จากแนวโน้มดอกเบี้ยขาลงใกล้จบ อย่างไรก็ตามกลุ่มธนาคารยังไม่ได้ตอบรับปัจจัยการเติบโตของเศรษฐกิจในระยะถัดไป ซึ่งหลังจากการประกาศผลประกอบการมีโอกาสที่ผลประกอบการจะสะท้อนการเติบโตของเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงโดยเฉพาะใน H1/69
แนวโน้มช่วงบ่ายคาดดัชนีผันผวน โดยเช้านี้ดัชนีปรับตัวลดลงหลุดระดับแนวรับสำคัญ 1,250 จุดและเด้งกลับ
โดยให้กรอบแนวรับ 1,250 จุด แนวรับถัดไป 1,230 จุด และแนวต้าน 1,260 จุด แนวต้านถัดไป 1,280 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
KTB มูลค่าการซื้อขาย 1,439.07 ล้านบาท ปิดที่ 29.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,094.21 ล้านบาท ปิดที่ 169.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,048.69 ล้านบาท ปิดที่ 31.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 832.56 ล้านบาท ปิดที่ 54.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 795.61 ล้านบาท ปิดที่ 195.50 บาท ลดลง 1.50 บาท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 ธ.ค. 68)





