(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าไซด์เวย์อัพ รับราคาน้ำมันฟื้น-"ทรัมป์" อาจยืดหยุ่นเก็บภาษี-จับตาศึกอภิปรายฯ

นักวิเคราะห์ฯ ระบุตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดดัชนีแกว่งไซด์เวย์ ถึง ไซด์เวย์อัพ โดยตลาดหุ้นไทยเริ่มมีข่าวดีเข้ามามากขึ้น ราคาน้ำมันฟื้นตัวเป็นผลดีต่อหุ้นพลังงาน รวมถึง PTT ประกาศซื้อหุ้นคืน ประกอบกับรัฐบาลที่มีมาตรการกระตุ้นออกมาต่อเนื่อง เป็นปัจจัยหนุนตลาดได้ อย่างไรก็ตามวันนี้ติดตามอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศติดตามมาตรการภาษีสหรัฐฯ แม้ล่าสุดโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ส่งสัญญาณยืดหยุ่นแผนเรียกเก็บภาษี แต่ยังมีความไม่แน่นอนและต้องติดตามรายละเอียดต่อไป โดยให้กรอบแนวรับ 1,180 จุด และแนวต้าน 1,190 - 1,195 จุด แนวต้านถัดไป 1,200 จุด

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า แนวโน้มตลาด

หุ้นไทยเช้านี้ แกว่งไซด์เวย์ ถึงไซด์เวย์อัพ ตลาดหุ้นไทยเริ่มมีข่าวดีเข้ามามากขึ้น โดยราคาน้ำมันฟื้นตัว ส่งผลดีต่อกลุ่มพลังงาน รวมถึง บมจ. ปตท. (PTT) ที่มีมติซื้อหุ้นคืน ปัจจัยดังกล่าวช่วยหนุนตลาดได้ ประกอบกับรัฐบาลออกมามาตรการกระตุ้นต่อเนื่อง อาทิ แนวคิดซื้อหนี้ และการผ่อนคลายมาตรการ LTV อย่างไรก็ตามวันนี้ติดตามการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ว่าจะมีประเด็นที่กระทบเสถียรภาพของรัฐบาลหรือไม่ แต่มองว่าน่าจะไม่มีประเด็นอะไร เมื่อสิ้นสุดการอภิปรายตลาดน่าจะฟื้นตัวได้

ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศติดตามมาตรการภาษีสหรัฐ ซึ่งมีกำหนดบังคับใช้ในวันที่ 2 เม.ย. ซึ่งล่าสุดประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ ส่งสัญญาณใช้ความยืดหยุ่นต่อแผนการเรียกเก็บภาษี แต่มองว่ายังมีความไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับผลของการเจรจาแต่ละประเทศ ซึ่งต้องติดตามในวันที่ 2 เม.ย. ว่าจะเป็นอย่างไร นอกจากนี้สัปดาห์นี้ติดตามการเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการเดือนมี.ค.ของสหรัฐ

พร้อมทั้งให้กรอบแนวรับ 1,180 จุด และแนวต้าน 1,190 - 1,195 จุด แนวต้านถัดไป 1,200 จุด


*ประเด็นพิจารณาการลงทุน


- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (21 มี.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 41,985.35 จุด เพิ่มขึ้น 32.03 จุด หรือ +0.08%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,667.56 จุด เพิ่มขึ้น 4.67 จุด หรือ +0.08% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,784.05 จุด เพิ่มขึ้น 92.43 จุด หรือ +0.52%

- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 37,841.68 จุด เพิ่มขึ้น 164.62 จุด หรือ +0.43% ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 23,749.58 จุด เพิ่มขึ้น 59.86 จุด หรือ +0.25% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,364.83 จุด ไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับปิดของวันศุกร์ที่ 21 มี.ค.

- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (21 มี.ค.) 1,186.61 จุด เพิ่มขึ้น 4.90 จุด (+0.41%) มูลค่าการซื้อขายราว 47,327.08ล้านบาท

- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ (21 มี.ค.) 462.94 ล้านบาท

- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ค. (21 มี.ค.) เพิ่มขึ้น 21 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 68.28 ดอลลาร์/บาร์เรล

- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (21 มี.ค.) อยู่ที่ 3.12 เหรียญ/บาร์เรล

- เงินบาทเปิด 33.92/99 อ่อนค่าตามภูมิภาค จับตาศึกอภิปรายฯ-Flow-ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ

- คลังยกระดับแก้หนี้ หลัง "คุณสู้ เราช่วย" ลูกค้าเข้าร่วมไม่มาก ขุนคลัง "พิชัย" เล็งใช้เงิน FIFD 20,000-30,000 ล้าน ช่วยกลุ่มหนี้เสียไม่เกิน 100,000 บาท แย้มซื้อหนี้จากแบงก์มาให้ AMC บริหาร-ดึงเจรจา-เติมเงินให้ 10,000-20,000 บาท สร้างเครดิตใหม่ ชี้ 3 ปีหากชำระได้ปกติ "ล้างสถานะเครดิต" มั่นใจช่วยลดระดับหนี้ครัวเรือนต่ำลงได้ ขณะที่ "แบงก์" รับไอเดียคาดได้ข้อสรุป ใน 2 สัปดาห์ ด้าน "เครดิตบูโร" ตอกย้ำปัญหาหนี้ปัจจุบันเข้าขั้น "วิกฤต" แนะเร่งช่วยกลุ่มเจอผลกระทบโควิดยังไม่ฟื้น

- ธุรกิจอสังหาฯ เผชิญ แรงกดดัน "กับดักหนี้ครัวเรือนสูง" ยอดปฏิเสธสินเชื่อพุ่งสูง ทุบตลาดไปต่อไม่ได้ ผู้ประกอบการยอมถอยทัพเบรกเปิดโครงการใหม่ เร่งระบายสต็อกล้นกว่า 1.3 ล้านล้าน วอนแบงก์ผ่อนปรนเกณฑ์ปล่อยสินเชื่อ หวังรัฐต่อมาตรการโอนจดจำนอง เสริม ปลดล็อก LTV เป็นแรงส่งดันยอดโอนกรรมสิทธิ์ เพิ่ม 10% "คุชแมนฯ" เผยบ้านเปิดขายใหม่วูบ 28% ดีเวลลอปเปอร์ลุยคอนโดหรูเจาะกลุ่มมั่งคั่ง รับดีมานด์ต่างชาติ

- กระทรวงการคลังเปิดตัวมาตรการ "กระบะพี่ มีคลังค้ำ" ปลดล็อก SMEs เข้าถึงสินเชื่อเช่าซื้อรถกระบะใหม่ วงเงินค้ำประกันระยะแรก 5,000 ล้านบาท พร้อมสิทธิประโยชน์ ฟรีค่าธรรมเนียมค้ำประกัน 3 ปีแรก ค้ำประกันนาน 7 ปี หรือ 84 งวด เปิดรับคำขอตั้งแต่ 1 เม.ย. นี้

- บอร์ดบริหารหลักทรัพย์คลังเตรียมพิจารณาตัดขายหุ้นที่ไม่จำเป็นต้องถือครองอีก 10 บริษัทในเร็วๆ นี้ เพื่อบริหารพอร์ตหุ้นของกระทรวงการคลังให้มีมูลค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด ล่าสุดพบคลังถือหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์รวม 13 บริษัท มูลค่ารวม 9.24 แสนล้านบาท

- "ไทยบีเอ็มเอ" เผยยอดออก "หุ้นกู้อสังหาฯ" ตั้งแต่ต้นปี 68 "กลุ่มไฮยีลด์" วูบเหลือ 2.8 พันล้านจากช่วงเดียวของกันปีก่อนเฉียด "หมื่นล้าน" ขณะที่ "กลุ่มอินเวสต์เมนต์เกรด" พุ่งใกล้เคียงปีก่อน นักลงทุนระวังคุณภาพ "เอกชน" หลังเศรษฐกิจ ไม่ฟื้น-ดอกเบี้ยสูง ด้าน "หุ้นกู้ชัวร์นิรันดร์" ปีนี้ ไม่ออกใหม่ มี 2 ราย "แสนสิริ-อนันดา" ครบกำหนด ไถ่ถอนได้ "บล.กสิกรไทย" เปิดสารพัดปัจจัยกดดันตลาด นักลงทุนระวังสภาพคล่องหุ้นกู้ "อสังหาฯ-ธุรกิจมีภาระหนี้สูง"

- "สุริยะ" คอนเฟิร์มยังเดินหน้าโครงการ "แลนด์บริดจ์" ย้ำโรดโชว์ต่างประเทศไม่เสียเปล่า "จีน-ตะวันออกลาง" ยังสนใจลงทุน พร้อมเร่งเครื่องดัน พ.ร.บ. SEC เข้า ครม. พ.ค.นี้ มั่นใจมีผลบังคับใช้ภายในปี 68 ตั้งเป้าตอกเสาเข็มภายในรัฐบาลชุดนี้


*หุ้นเด่นวันนี้

- TLI (ลิเบอเรเตอร์) ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 13.70 บาท คาดแนวโน้มของธุรกิจคาดมีทิศทางเชิงบวกจากการเริ่มใช้มาตรฐานบัญชี TFRS17 ในปีนี้หนุนกำไรเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ในช่วงเดือน มีนาคมจะเริ่มปรับใช้เงื่อนไข Copayment ซึ่งคาดจะทำให้บริษัทควบคุมค่าใช้จ่ายผลประโยชน์ตามกรมธรรม์ได้ดีขึ้นเรื่อยๆ ผสานกับประกาศจ่ายปันผลหุ้นละ 0.5 บาท คิดเป็น Dividend Yield 4.2% เป็นปัจจัยหนุนเพิ่มเติม

- AURA (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 20.10 บาท เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อ AURA จากราคาทองคำที่ขึ้นเหนือ 3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ช่วยสร้างกำไรจากส่วนต่างธุรกิจ modern gold บริษัทตั้งเป้าเพิ่มสาขาเป็น 644 แห่งในปี 2568(เติบโต 32%) พร้อมเพิ่มพอร์ตสินเชื่อทองคำเป็น 6,500 ล้านบาท และตั้งเป้ากำไรสุทธิโต 20-30% AURA เตรียมขึ้นค่ากำเหน็จทองสูงสุด 300 บาทต่อบาททองในไตรมาส 2/2568 มีแผนขยายเพดานหนี้จาก 2 เท่าเป็น 2.5 เท่า พร้อมออกหุ้นกู้ 2,000 ล้านบาท เพื่อเสริมสภาพคล่องในการขยายสาขา และยังได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยที่ลดลง เนื่องจากมีสัดส่วนเงินกู้แบบอัตราลอยตัวถึง 98%

- BCPG (คิงส์ฟอร์ด) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 8.40 บาท แนวโน้มปี 68 คาดกำไรปกติจะเติบโตด้วยผลของปรากฏการณ์ลานีญาที่เป็นบวกต่อ Hydro power plant ประกอบกับการทยอย COD โครงการพลังงานลม Monsoon (290Mwe ถือหุ้น 48%) ในลาวที่จะเริ่มช่วง 2H68 ปัจจัยบวกที่เหลือมาจาก BCPG มีสัดส่วนกำลังการผลิตไฟฟ้าในไทยน้อย ทำให้ได้รับผลกระทบอย่างจำกัดจากการแทรกแซงโดยภาครัฐ ขณะที่โรงไฟฟ้าในสหรัฐได้รับประโยชน์จากการเติบโตของธุรกิจ Data center ส่งให้ราคาขายไฟฟ้า (ค่าความพร้อมจ่าย) ในตลาดเสรีของสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นในครึ่งปีหลัง มองว่าปี 68 ไม่มีตั้งสำรองเพิ่มกรณีลูกหนี้ในลาว ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรปี 68 ที่ 1.5 พันล้านบาท และปี 69 ที่ 1.8 พันล้านบาท +19%YoY