สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 พ.ค. 68)
นายวรุต รุ่งขำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า การซื้อขาย SET50 Index Futures วันนี้ S50M25 ดัชนีปรับตัวขึ้นค่อนข้างดีช่วงแรก สอดคล้องกับตลาดหุ้นภุมิภาคที่ปรับตัวขึ้น หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตร รัฐบาลสหรัฐ (บอนด์ยีลด์) อายุ 10 ปีเริ่มปรับตัวลง ประกอบกับธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ทั้งประเภท 1 ปีและ 5 ปี เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เป็นปัจจัยที่ทำให้ตลาดหุ้นภูมิภาคค่อนข้างฟื้นตัวขึ้น นอกจากนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีความชัดเจนแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายใต้กรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท กระตุ้นเศรษฐกิจ ที่หนุนดัชนีให้ขยับขึ้นด้วย ทั้งนี้อาจต้องดูรายละเอียดของโครงการที่จะนำไปใช้จริง ๆ จะกระตุ้นได้มากน้อยแค่ไหน ส่วน หนึ่งมองว่าเป็นโครงการพื้นฐานเกี่ยวกับน้ำและคมนาคม อาจส่งผลบวกต่อหุ้นบางกลุ่มได้เหมือนกัน อย่างไรก็ในช่วงบ่ายดัชนีเริ่มลดช่วงบวกลง เนื่องจากมีแรงขายทำกำไร รวมทั้งนักลงทุนยังเพิ่มความระมัดระวังการลงทุน จากแนวโน้มสงครามการค้าอาจยังมีความผันผวน หลังนายสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ออกมากล่าวเตือน จะเรียกเก็บภาษี ศุลกากรในอัตราที่ประกาศไว้เมื่อวันที่ 2 เม.ย.ต่อประเทศคู่ค้าที่ไม่เจรจาข้อตกลงการค้ากับสหรัฐอย่าง "สุจริตใจ" ทำให้นักลงทุนเพิ่ม ความระมัดระวังในการลงทุน ขณะเดียวกันไทยเองยังไม่มีความคืบหน้าชัดเจนต่อการเจรจาภาษีกับสหรัฐ แนวโน้มวันพรุ่งนี้เรามองภาพดัชนียังแกว่งตัวในกรอบไซย์ดาวน์ แนะนำเปิดสถานะขาย หากดัชนีไม่ผ่านแนวต้าน 783 จุด และเมื่อดัชนีอ่อนตัว ลดสถานะขายลง โดยใช้แนวรับ 768 - 763 จุด เป็นจุดปิดสถานะ ทั้งนี้หากดัชนีไม่ผ่านแนวต้านระดับดังกล่าวซึ่งเป็น จุดสูงสุดของวันนี้มีโอกาสอ่อนตัวลงได้ สำหรับประเด็นที่ต้องติดตามสัปดาห์นี้ แนะติดตามถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และผู้ว่าการเฟด ต่อ แนวโน้มการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด รวมทั้งการประชุม G7 ว่าจะมีความคืบหน้าต่อประเด็นการเจรจาสงครามการค้าอย่างไร ด้านราคาทองคำมีการแกว่งตัวในกรอบ โดยภาพรวมราคาทองคำแกว่งแดนบวกแดนลบสลับกัน ขณะที่การอ่อนตัวลง เป็นไป อย่างจำกัด ทั้งนี้มองว่าหากราคาทองไม่หลุดจุดต่ำสุดของเมื่อวานนี้ที่ระดับ 3,200 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ มีลุ้นราคาทองคำจะขึ้นไปทดสอบ ระดับสูงสุดของสัปดาห์ที่แล้วที่ 3,250 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ ถ้าผ่านได้ราคาทองน่าจะขยับขึ้น แตะระดับ 3,285 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ แนะ นำใช้แนวรับ 3,200 - 3,166 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ ในการเข้าซื้อ และทยอยขายเมื่อราคาขยับขึ้นไปชนกรอบแนวต้านด้านบน หากไม่ ผ่าน 3,250 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ แบ่งขายบางส่วน แต่ถ้าผ่านได้ แนะขายที่แนวต้านถัดไปที่ 3,285 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ ดัชนี SET50 ปิดวันนี้ที่ระดับ 774.62 จุด เพิ่มขึ้น 2.69 จุด, +0.35% +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ปริมาณ สถานะคงค้าง Total Market 356,154 1,973,628 Total Futures 343,338 1,854,423 Equity Index 174,295 527,457 SET50 Index 174,295 527,457 Sector Index - - Single Stock 97,759 1,101,141 Precious Metal 29,363 48,465 - GF 5 138 - GF10 2,267 8,369 - Gold Online 26,998 37,686 - Silver Online 93 2,272 Deferred Precious Metal 1 1 - GOLD-D 1 1 Currency 41,920 177,240 - USD/THB 37,944 161,343 - EUR/THB 110 487 - JPY/THB 52 3,167 - EUR/USD 324 1,319 - USD/JPY 3,490 10,924 Interest Rate - - Agriculture - 119 - JRF - 119 - RSS3D - - - RSS3 - - Total options 12,816 119,205 Call 3,888 44,797 Put 8,928 74,408 สรุปปริมาณการซื้อขายตามกลุ่มผู้ลงทุน นักลงทุนสถาบัน นักลงทุนต่างชาติ นักลงทุนภายในประเทศ Futures -4,917 -1,891 +6,808 Options +3,482 +337 -3,819 ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++