มาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์ (Marks & Spencer – M&S) บริษัทค้าปลีกชื่อดังของอังกฤษ เปิดเผยในวันนี้ (21 พ.ค.) ว่า การโจมตีทางไซเบอร์ขั้นสูงจะส่งผลกระทบต่อกำไรจากการดำเนินงานราว 300 ล้านปอนด์ (403 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยคาดว่าผลกระทบจะยืดเยื้อไปจนถึงเดือนก.ค.นี้
เหตุโจมตีดังกล่าวส่งผลให้ระบบขายสินค้าออนไลน์ต้องหยุดชะงัก บางร้านมีสินค้าไม่เพียงพอบนชั้นวาง และมูลค่าหุ้นของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์หายไปกว่า 1 พันล้านปอนด์
M&S ระบุว่า ระบบออนไลน์จะยังไม่กลับมาใช้งานได้ตามปกติตลอดเดือนมิ.ย. และในเดือน ก.ค. ขณะที่ต้องทำการรีสตาร์ตระบบและเริ่มดำเนินงานใหม่ทั้งหมด
ในแผนกอาหารนั้น M&S ต้องกลับไปใช้ระบบจดบันทึกด้วยมือ ส่งผลให้สินค้าบางส่วนเสียหายและต้นทุนด้านโลจิสติกส์เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม สินค้าเริ่มกลับมาเพียงพอแล้ว ส่วนแผนกแฟชั่น ของใช้ในบ้าน และความงาม ยังคงได้รับผลกระทบหนักจากการหยุดรับคำสั่งซื้อทางออนไลน์
ทั้งนี้ M&S เปิดเผยเหตุการณ์ครั้งนี้เมื่อวันที่ 22 เม.ย. และ 3 วันถัดมาได้หยุดรับคำสั่งซื้อออนไลน์สำหรับสินค้าแฟชั่นและของใช้ในบ้าน ทั้งยังพบว่ามีข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าบางรายถูกขโมยไปด้วย
ในช่วงเวลาเดียวกัน บริษัทค้าปลีกอังกฤษอื่น ๆ อย่าง โค-ออป (Co-op) และแฮร์รอดส์ (Harrods) ก็ถูกโจมตีด้วยเช่นกัน ขณะที่กูเกิล (Google) เตือนว่า กลุ่มแฮกเกอร์ดังกล่าวยังมุ่งเป้าโจมตีไปที่บริษัทในสหรัฐฯ ด้วย ส่งผลให้ผู้ค้าปลีกทั่วโลกต้องเร่งยกระดับระบบความปลอดภัยทางไซเบอร์