สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 พ.ค. 68)
นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 32.55 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าจาก เปิดตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 32.87 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับภูมิภาคและตลาดโลก เนื่องจากดอลลาร์ย่อตัวลงมาเมื่อ เทียบกับค่าเงินสกุลหลัก ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 32.54 - 32.89 บาท/ดอลลาร์ ตามสถานการณ์ราคาทองในตลาด โลก ขณะที่มีเงินทุนระหว่างประเทศไหลเข้ามาในตลาดพันธบัตร 3.4 พันล้านบาท "บาทแข็งค่าตามทิศทางตลาดโลก ช่วงบ่ายลงไปแตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือนเหมือนเมื่อวาน" นักบริหารเงิน กล่าว นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันจันทร์ไว้ที่ 32.50 - 32.75 บาท/ดอลลาร์ ในช่วงวันหยุด ตลาดรอดูความคืบหน้าเกี่ยวกับการพิจารณากฎหมายภาษีและงบประมาณรายจ่ายของสหรัฐฯ รวมถึงการเจรจา การค้าระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศต่าง ๆ * ปัจจัยสำคัญ - เงินเยน อยู่ที่ระดับ 143.17 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 143.75 เยน/ดอลลาร์ - เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1348 ดอลลาร์/ยูโร จาเมื่อเช้าที่ระดับ 1.1292 ดอลลาร์/ยูโร - ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ 1,176.36 จุด เพิ่มขึ้น 2.99 จุด (+0.25%) มูลค่าการซื้อขาย 34,683.81 ล้านบาท - สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,735.37 ล้านบาท - ประธานผู้แทนการค้าไทย เผยคณะอนุกรรมการส่งเสริมตลาดนักท่องเที่ยวชาวอินเดียเห็นชอบกำหนดสถานที่หลักในการจัด งาน Mega Diwali Festival Thailand 2025 ที่สนามหลวง และจังหวัดหลักต่าง ๆ เช่น จังหวัดเชียงใหม่ ภูเก็ต ตั้งแต่วันที่ 17- 20 ต.ค.68 โดยตั้งเป้าดึงนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้เข้ามาประเทศไทย 500,000 คน - ราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อเนื่องในวันนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และความวิตกเกี่ยว กับเสถียรภาพทางการคลังของสหรัฐฯ ส่งผลให้นักลงทุนแห่เข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยอีกครั้ง - โฆษกทำเนียบขาวแถลงเมื่อวันพฤหัสบดี (22 พ.ค.) ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ จะเข้าร่วมการประชุม สุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศ (G7) ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15–17 มิ.ย.นี้ ณ เมืองคานานาสคิส รัฐ แอลเบอร์ตา ประเทศแคนาดา - หัวหน้าผู้เจรจาภาษีศุลกากรกับสหรัฐฯ ออกเดินทางไปกรุงวอชิงตันในวันนี้ เพื่อเจรจารอบที่สามกับรัฐบาลของ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่กำหนดภาษีนำเข้ารถยนต์ เหล็ก และอะลูมิเนียมจากญี่ปุ่น 25% รวมไปถึงภาษีนำเข้าทั่วไป 10% ซึ่งอาจเพิ่ม ขึ้นเป็น 24% ในเดือนก.ค. เว้นแต่จะมีการทำข้อตกลงการค้า - รองผู้ว่าการธนาคารกลางสิงคโปร์ แนะประเทศต่าง ๆ ในเอเชียให้รักษาความคล่องตัวทางเศรษฐกิจ และไม่ควรตอบโต้ มาตรการภาษีศุลกากรด้วยวิธีการแบบตาต่อตาฟันต่อฟันที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงด้านอุปทานในเชิงลบ ทำให้การดำเนินนโยบายการเงินมี ความซับซ้อนมากขึ้น เนื่องจากธนาคารกลางจะต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งระหว่างการผลักดันเศรษฐกิจให้เติบโตหรือฉุดเงินเฟ้อให้ชะลอ ตัวลง