CH โขว์วิทัศน์ใหม่ลงทุนเสริมแกร่งสู้เศรษฐกิจผ้นผวนดันผลงานโตไม่หยุดส่องช่องขยายธุรกิจอาหาร

นายศักดา ศรีแสงนาม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจริญอุตสาหกรรม [CH] เปิดเผยว่า บริษัทฯ วางแผนโตต่อเนื่อง 10% ระยะเวลา 3 ปี (68-70) ไม่ง้อสภาวะเศรษฐกิจโลกไม่แน่นอนและเศรษฐกิจไทยโตน้อยลง โดยชูกลยุทธ์การลงทุนภายใต้วิสัยทัศน์ใหม่ ‘Expand, Control and Be Known’ ยกระดับการเป็นผู้นำการผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปคุณภาพสูงในเวทีโลก ในโอกาสครอบรอบ 100 ปีของการก่อตั้งบริษัท

ในด้าน Expand นายปิยวงศ์ ศรีแสงนาม ประธานเจ้าหน้าที่สายงานปฏิบัติการ CH กล่าวว่า บริษัทจะมุ่งขยายฐานการผลิตและสำนักงานทั่วโลก เน้นการบริการผลิตผลไม้แห้ง OEM ครบวงจรในตลาดประเทศ ซึ่งปัจจุบันคิดเป็นประมาณ 80% ของรายได้ทั้งหมด CH มีกำลังการผลิตรองรับตลอดทั้งปี พร้อมให้บริการ R&D ปรับปรุงสินค้าตามความต้องการของลูกค้าในแต่ล่ะพื้นที่ และบริการกราฟฟิคสำหรับการออกแบบบรรจุภัณฑ์ อีกทั้งยังได้รับมาตรฐานสินค้า แรงงาน ศาสนาและสิ่งแวดล้อมตามภูมิภาค อีกด้วย

บริษัทยอมรับว่าจำนวนนักท่องเที่ยวในไทยลดลงส่งผลต่อรายได้ เพราะลูกค้ากลุ่มนี้เป็นส่วนแบ่งรายได้ในประเทศที่สำคัญ แต่บริษัทได้แก้เกมด้วยการรุกขยายตลาดต้นทางของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะจีน ที่มี awareness เกี่ยวกับแบรนด์อยู่แล้ว และยังมีการพัฒนาการตลาดกับกลุ่มลูกค้าคนไทยอีกด้วย เช่น นำสินค้ามะม่วงแปรรูปรสชาติถูกปากคนไทยไปลงในร้านสะดวกซื้อใกล้บ้าน

นายประวิทย์ ศรีแสงนาม ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการลงทุน CH เปิดเผยว่า ในด้าน Control จะประกอบไปด้วยแผนการลงทุนแนวราบและแนวดิ่ง มุ่งเน้นการควบคุมคุณภาพสินค้าและห่วงโซ่การผลิต โดยแนวราบจะเป็นในระยะสั้นถึงกลาง ตั้งแต่การเพิ่มความสามารถในภาพในการผลิต นำเครื่องจักรไปติดตั้งในโรงงานที่ยังไม่มีอัตราการใช้งานเต็มที่ การขยายตลาดเดิมในต่างประเทศ และขยายขอบเขตประเภทสินค้า ล่าสุดได้มีการบุกตลาดขนมขบเคี้ยวไป

ส่วนการลงทุนแนวดิ่ง จะเป็นแผนการลงทุนภายในระยะ 10 ปี ประกอบไปด้วยการควบคุมต้นสายการผลิต ซึ่งอาจจะมีการทำฟาร์มผลไม้เป็นของตนเอง รวมถึงโรงงานบรรจุภัณฑ์ และทางด้านโลจิติกส์ การจัดส่งปลายน้ำอีกด้วย ทั้งนี้บริษัทฯ ก็ยังสนใจควบรวมกิจการ ธุรกิจกลุ่มอาหารด้วยกัน ถ้าหากเป็นไปได้และมีโอกาส

ด้าน Be Known นายศักดา กล่าวว่า เป็นการสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งและเป็นที่รู้จักทั่วโลก โดยมีแผนระยะยาว ภายใน 10 ปีเช่นกันที่จะเพิ่มสัดส่วนรายได้จากการขายสินค้าแบรนด์ตนเอง เป็น 30% จากปัจจุบันที่มีอยู่ประมาณ 10% ซึ่งจะมีอัตราทำกำไรสุทธิที่ดีกว่า

จากความไม่แน่นอนทางการค้าของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของ CH ในสัดส่วนประมาณ 54% ของรายได้ทั้งหมด ทำให้บริษัทฯ ต้องแก้ปัญหาวันต่อวัน จึงได้มีวางแผนรับมือกำแพงภาษีของสหรัฐไว้ ทั้งในระยะสั้น กลาง และ ยาว โดยระยะสั้น จะเน้นการเจรจากับคู่ค้าเพื่อปรับตัวร่วมกัน และระยะกลาง มุ่งขยายตลาดสู่ประเทศอื่น พร้อมกับพัฒนาสินค้าต้นทุนต่ำในตลาดสหรัฐอเมริกาเพื่อรักษาราคาที่แข่งขันได้ สุดท้ายในระยะยาว จะพิจารณาการลงทุนในประเทศที่ได้เปรียบด้านภาษี เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืน

"หนึ่งศตวรรษของ CH คือเรื่องราวแห่งความเชื่อมั่น ความร่วมมือ และการเติบโตเคียงข้างสังคมไทยและนานาชาติ CH ขอขอบคุณทุกแรงสนับสนุนที่ทำให้บริษัทมาถึงจุดนี้ สำหรับก้าวต่อไปจากนี้ เราจะเพิ่มศักยภาพการเติบโตขององค์กรให้ก้าวหน้าไปอีกขั้น ด้วยผ่านกลยุทธ์ที่แข็งแกร่ง แนวคิดและแผนงานในระดับสากลอย่างเต็มศักยภาพ พร้อมมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์นวัตกรรม เชื่อว่าในอีก 3 ปีข้างหน้า CH จะเป็นที่รู้จักเในระดับนานาชาติมากขึ้น ในฐานะ บริษัทไทย ที่นำพา อาหารไทย สู่เวทีโลก ที่แข่งขันในระดับสากลได้ทั้งในด้านคุณภาพ และรสชาติ ผ่านการดำเนินงานอย่างมีศักยภาพ" นายศักดา กล่าว