ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 32.65 แข็งค่าตามภูมิภาค คลายกังวลสงครามอิสราเอล-อิหร่าน

          นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ อยู่ที่ระดับ 32.65 บาท/ดอลลาร์ จากช่วงเช้า
เปิดตลาดที่ระดับ 32.80 บาท/ดอลลาร์ 
          ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 32.65-32.79 บาท/ดอลลาร์ โดยวันนี้เงินบาทปรับตัวแข็งค่าตามทิศทางเดียวกับ
สกุลเงินอื่นในภูมิภาค เนื่องจากตลาดเริ่มคลายความกังวลต่อสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ภายหลังสหรัฐฯ ประกาศว่า
อิสราเอลและอิหร่านได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิงแล้ว
          "บาทแข็งค่าตามภูมิภาค และแข็งค่ามากสุดเป็นอันดับ 2 รองจากเงินวอนของเกาหลี" นักบริหารเงิน ระบุ
          คืนนี้ ต้องติดตามการรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิ.ย.จาก Conference Board รวมทั้งรอติดตามถ้อยแถลง
นโยบายการเงินรอบครึ่งปี ของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะมีต่อสภาผู้แทนราษฎร 
          ส่วนวันพรุ่งนี้ ตลาดรอติดตามผลประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของไทย ซึ่งส่วนใหญ่เชื่อว่า มติกนง.รอบนี้
จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.75% 
          นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.50 - 32.80 บาท/ดอลลาร์

          *  ปัจจัยสำคัญ
          - เงินเยน อยู่ที่ระดับ 144.96 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 145.53 เยน/ดอลลาร์
          - เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1610 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1590 ดอลลาร์/ยูโร
          - ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,100.01 จุด เพิ่มขึ้น 37.23 จุด (+3.50%) มูลค่าการซื้อขาย 52,840.03 ล้านบาท
          - สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 272.25 ลบ.(SET+MAI)
          - พรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีมติจะยื่นญัตติเพื่อขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หลังจาก
เปิดสมัยประชุมสภาฯ ในเดือนก.ค.นี้ โดยจะเชิญชวนพรรคร่วมฝ่ายค้าน เช่น พรรคประชาชน และพรรคพลังประชารัฐ เข้าร่วมลงชื่อใน
ญัตตินี้ด้วย
          - ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ วงเงิน 1.15 แสนล้านบาท ภายใต้แผนขับเคลื่อน
เศรษฐกิจที่กรอบงบประมาณ 1.57 แสนล้านบาท โดยคาดว่าจะช่วยเพิ่มการขยายตัวเศรษฐกิจของปีนี้ขึ้นได้อีก 0.4% ซึ่งประกอบด้วย 
โครงการด้านโครงสร้างพื้นฐาน 85,000 ล้านบาท, ด้านการท่องเที่ยว 10,053 ล้านบาท, ด้านการลดผลกระทบภาคส่งออกและเพิ่มผลิต
ภาพ 11,122 ล้านบาท และด้านเศรษฐกิจชุมชนอื่น ๆ 9,201 ล้านบาท
          - สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เผยยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปในเดือน พ.ค.68 อยู่ที่ 81,071 คัน ลด
ลง 9.20% จากเดือน พ.ค.67 โดยมีมูลค่าการส่งออก 76,432 ล้านบาท ลดลง 8.74% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษี
ศุลกากรตอบโต้ของสหรัฐฯ และปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ในภูมิภาคต่าง ๆ ซึ่งส่งผลให้ภาวะเศรษฐกิจและการค้าโลกชะลอตัวลง 
          - สื่ออิหร่าน รายงานอย่างเป็นทางการว่า "อิหร่าน" และ "อิสราเอล" ได้เริ่มการหยุดยิงแล้ว หลังจากที่ทั้งสองฝ่าย ใช้
ปฏิบัติการทางอากาศโจมตีกันเป็นเวลานาน 12 วัน ซึ่งรายงานดังกล่าว ถือเป็นการยืนยันคำประกาศของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก่อนหน้านี้ 
          - อัตราเงินเฟ้อของมาเลเซียเดือนพ.ค. อยู่ที่ 1.2% ซึ่งเป็นอัตราต่ำที่สุดในรอบ 51 เดือน โดยมีสาเหตุหลักสอดคล้องกับ
การปรับตัวลดลงของราคาน้ำมันในตลาดโลก
          - กระทรวงพาณิชย์จีน ระบุว่า จีนอาจดำเนินมาตรการตอบโต้สหภาพยุโรป (EU) กรณีห้ามบริษัทอุปกรณ์การแพทย์ของจีนเข้า
ร่วมกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐใน EU ส่งผลให้ความตึงเครียดด้านการค้าทวีความรุนแรงขึ้น ก่อนที่การประชุมสุดยอดผู้นำจีนและ
ยุโรป จะเปิดฉากขึ้นในเดือนหน้า
          - นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เตรียมประกาศเพิ่มงบประมาณรายจ่ายด้านความมั่นคงเป็น 5% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ
ภายในปี 2578 ตามเป้าหมายขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) แม้จะไม่ได้บอกถึงแนวการการบรรลุเป้าหมายก็ตาม