PMI ภาคบริการยูโรโซนพลิกขยายตัวในเดือนมิ.ย. แต่ดีมานด์ยังอ่อนแอ

ผลสำรวจที่เผยแพร่ในวันนี้ (3 ก.ค.) ระบุว่า ภาคบริการซึ่งเป็นภาคส่วนหลักของยูโรโซน กลับมาขยายตัวได้อีกครั้งในเดือนมิ.ย. หลังจากหดตัวในเดือนพ.ค. อย่างไรก็ตาม การเติบโตดังกล่าวยังคงเปราะบางเนื่องจากอุปสงค์ยังคงอ่อนแอ

ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายของยูโรโซนจาก HCOB ซึ่งจัดทำโดย S&P Global ขยับขึ้นสู่ระดับ 50.5 ในเดือนมิ.ย. จากระดับ 49.7 ในเดือนพ.ค. และสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้เบื้องต้นที่ระดับ 50.0

ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่ระดับสูงกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจอยู่ในภาวะขยายตัว ส่วนดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าอยู่ในภาวะหดตัว

ขณะเดียวกัน ดัชนี PMI รวมภาคการผลิต-ภาคบริการขั้นสุดท้ายของยูโรโซน ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 50.6 จาก 50.2 แตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน แต่ยังคงสะท้อนการเติบโตเพียงเล็กน้อย

อย่างไรก็ตาม ดัชนีชี้ว่ายอดธุรกิจใหม่โดยรวมยังคงหดตัวเป็นเดือนที่ 13 ติดต่อกัน แม้อัตราการหดตัวจะชะลอลงมาอยู่ที่ระดับ 49.7 ก็ตาม แต่ถึงกระนั้น บริษัทในภาคบริการยังคงจ้างงานเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 รักษาแนวโน้มการสร้างงานที่ดำเนินมาเกือบ 4 ปีครึ่ง

ด้านความเชื่อมั่นทางธุรกิจในหมู่ผู้ให้บริการ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ต้นปี 2568 ฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดในรอบ 29 เดือนเมื่อเดือนเม.ย. แต่ยังคงอยู่ต่ำกว่าแนวโน้มระยะยาว

ขณะเดียวกัน แม้อัตราเงินเฟ้อด้านปัจจัยการผลิตในภาคบริการจะชะลอตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน แต่ยังคงอยู่ในระดับสูง นอกจากนี้ ผู้ประกอบการยังขึ้นราคาค่าบริการในอัตราที่เร็วที่สุดในรอบ 3 เดือน ซึ่งอาจสร้างความซับซ้อนต่อแนวโน้มเงินเฟ้อของธนาคารกลางยุโรป (ECB) แม้จะเพิ่งมีการลดดอกเบี้ยไปก็ตาม