สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ก.ค. 68)
นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 32.38/40 บาท/ดอลลาร์ จากเปิดตลาดเมื่อ เช้าที่ระดับ 32.35 บาท/ดอลลาร์ โดยระหว่างวันเงินบาท รวมทั้งสกุลเงินส่วนใหญ่ในภูมิภาคยังไม่มีปัจจัยใหม่ โดยวันนี้เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบแคบ 32.30 - 32.40 บาท/ดอลลาร์ ทั้งนี้ ตลาดรอดูผลการเจรจาภาษีการค้าระหว่างไทย และสหรัฐฯ คืนนี้ โดยมองว่า ผลการเจรจาของไทยน่าจะมีความคล้าย คลึงกับผลการเจรจาที่สำเร็จแล้วของประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนาม นอกจากนี้ ยังรอดูตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ การจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม (Nonfarm Payrolls) เดือนมิ.ย. ซึ่ง ตลาดคาดการณ์ว่าจะลดลงจากครั้งก่อนหน้า ทั้งนี้ มองว่ามีโอกาสที่ออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ เนื่องจากตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนมิ. ย. จาก ADP ที่ออกมาเมื่อวานนี้ (2 ก.ค.) ก็ออกมาต่ำกว่าคาดค่อนข้างเยอะ "ต้องรอดูผลการเจรจากับสหรัฐฯ ว่าจะออกมาใกล้เคียงกับเวียดนามหรือไม่ ซึ่งถ้าผลเจรจาออกมาใกล้เคียงกับเวียดนาม หรือออกมาว่าโดนเก็บภาษีมากกว่าเวียดนาม ก็มีโอกาสที่บาทจะอ่อนค่าได้ แต่ถ้าผลการเจรจาออกมาดีกว่า ก็มีโอกาสที่เงินบาทจะแข็งค่า ได้ ทั้งนี้ ต้องดูปัจจัยจากตัวเลข Nonfarm ที่จะออกมาคืนนี้ประกอบไปด้วย" นักบริหารเงิน ระบุ นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 32.20 - 32.65 บาท/ดอลลาร์ * ปัจจัยสำคัญ - เงินเยน อยู่ที่ระดับ 143.86/87 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 143.59 เยน/ดอลลาร์ - เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1790/1791 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.1810 ดอลลาร์/ยูโร - ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ 1,127.21 จุด เพิ่มขึ้น 11.52 จุด (+1.03%) มูลค่าซื้อขาย 34,920.97 ล้านบาท - สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 44.19 ล้านบาท - ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดพิเศษ มีมติเห็นชอบเรื่องการมอบหมายให้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในกรณีที่นายกรัฐมนตรีไม่อาจปฏิบัติราชการได้ โดยจะมีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรี และมี อำนาจหน้าที่ในการเป็นประธานกรรมการใน คณะกรรมการหรือองค์กรใด - ธนาคารโลก คาด GDP ไทยในปี 68 ชะลอลงมาอยู่ที่ 1.8% ส่วนปี 69 คาดว่าจะโตในอัตรา 1.7% ซึ่งสะท้อนผลกระทบ จากการเปลี่ยนแปลงนโยบายการค้าโลก ทำให้ภาคการส่งออกอ่อนแอ การบริโภคชะลอตัว ขณะที่ภาคท่องเที่ยวฟื้นตัวในระดับปานกลาง อย่างไรก็ตาม เวิลด์แบงก์มองว่าหากความเชื่อมั่นด้านการลงทุนปรับตัวดีขึ้นอาจจะช่วยกระตุ้น GDP ปี 68 โตเพิ่มเป็น 2.2% และปี 69 คาดว่าจะเติบโตได้ราว 1.8% - สมาชิกคณะกรรมการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) กล่าวในการประชุมผู้นำธุรกิจซึ่งจัดขึ้นที่จังหวัดมิเอะ ทางตอนกลางของ ญี่ปุ่นในวันนี้ว่า BOJ หยุดพักการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียงชั่วคราวเท่านั้น และจะกลับมาเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อไปในอนาคต แม้เศรษฐกิจ ญี่ปุ่นมีแนวโน้มที่จะเผชิญแรงกดดันจากมาตรการภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ก็ตาม - สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ซึ่งพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก มีมติวันนี้ (3 ก.ค.) ด้วยคะแนนเสียงฉิวเฉียด 219 ต่อ 213 เสียง ให้เดินหน้าพิจารณาร่างกฎหมายด้านภาษีและการคลังของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดตลอดคืนที่ ผ่านมา ซึ่งเกือบต้องล่มลงจากเสียงของสมาชิกพรรครีพับลิกันเองที่โหวตสวนมติพรรค