ผลสำรวจของ HSBC ซึ่งรวบรวมโดย S&P Global เปิดเผยในวันนี้ (3 ก.ค.) ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายของอินเดียในเดือนมิ.ย. พุ่งขึ้นแตะระดับ 60.4 จากเดิม 58.8 ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นการขยายตัวที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบ 10 เดือน โดยได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ภายในประเทศที่พุ่งสูงขึ้นอย่างมาก ประกอบกับแรงกดดันด้านราคาที่เริ่มลดความร้อนแรงลง
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่ระดับสูงกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจอยู่ในภาวะขยายตัว ส่วนดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าอยู่ในภาวะหดตัว
ปัจจัยหนุนสำคัญมาจากการพุ่งขึ้นของดัชนีธุรกิจใหม่ ซึ่งสะท้อนถึงอุปสงค์ในประเทศที่แข็งแกร่ง ขณะที่ยอดคำสั่งซื้อจากต่างประเทศก็เติบโตอย่างมั่นคง โดยผู้ตอบแบบสำรวจระบุว่าได้รับแรงหนุนจากตลาดในเอเชีย ตะวันออกกลาง และสหรัฐฯ
อุปสงค์ที่แข็งแกร่งดังกล่าวยังช่วยสนับสนุนให้เกิดการจ้างงานอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าอัตราการเติบโตชะลอตัวลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนพ.ค.ก็ตาม
ขณะเดียวกัน แรงกดดันด้านราคาก็ลดความร้อนแรงลง โดยอัตราเงินเฟ้อด้านปัจจัยการผลิตชะลอตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือน อย่างไรก็ดี ผู้ให้บริการยังสามารถผลักภาระต้นทุนบางส่วนไปยังลูกค้าได้
อย่างไรก็ตาม แม้ข้อมูลส่วนใหญ่ออกมาในเชิงบวก แต่มุมมองต่อแนวโน้มธุรกิจในอีก 12 เดือนข้างหน้ากลับอ่อนตัวลงสู่ระดับต่ำที่สุดในรอบกว่า 2 ปี
เมื่อรวมกับภาคการผลิตที่เติบโตแข็งแกร่งเช่นกัน ส่งผลให้ดัชนี PMI รวมภาคการผลิต-ภาคบริการขั้นสุดท้ายของอินเดีย ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 61.0 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นการขยายตัวที่รวดเร็วที่สุดในรอบ 14 เดือน