สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 ก.ค. 68)
นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 32.43/44 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวจากช่วงเช้าเปิด ตลาดที่ระดับ 32.44 บาท/ดอลลาร์ ทั้งนี้ ระหว่างวันเงินบาทยังไร้ปัจจัยใหม่ โดยเคลื่อนไหวในกรอบ 32.42 - 32.50 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวอ่อนค่าไปใน ทิศทางเดียวกับสกุลเงินส่วนใหญ่ในภูมิภาค โดยเงินบาทอ่อนค่าสุดในภูมิภาค "ปัจจัยเรื่องความขัดแย้งชายแดนไทยและกัมพูชา ค่อนข้างมีผลจำกัดต่อเงินบาท เนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมา ได้มีข่าวการหยุด ยิงตอนเที่ยงคืน แต่สถานการณ์จริง ก็ยังไม่ได้มีการหยุดยิง และล่าสุดสมเด็จฯ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ได้ออกมาโพสต์ขอบคุณที่ ไทยและกัมพูชาทำข้อตกลงในการหยุดยิงด้วย" นักบริหารเงิน ระบุ สำหรับคืนนี้ รอติดตามตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน และอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนมิ.ย.ของสหรัฐฯ นักบริหารเงิน คาดว่า วันพรุ่งนี้ เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.30 - 32.65 บาท/ดอลลาร์ * ปัจจัยสำคัญ - เงินเยน อยู่ที่ระดับ 148.53/55 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 148.48 เยน/ดอลลาร์ - เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1578/1579 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1590 ดอลลาร์/ยูโร - ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,233.68 จุด เพิ่มขึ้น 16.53 จุด (+1.36%) มูลค่าการซื้อขาย 51,323.28 ล้านบาท - สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 3,405.41 ลบ.(SET+MAI) - "ภูมิธรรม" รักษาการนายกรัฐมนตรี เผยรัฐบาลไทยได้ทำหนังสือประท้วงไปยังประธานอาเซียน สหรัฐฯ และจีน ซึ่งเป็น สักขีพยานในการเจรจาหยุดยิงระหว่างไทย-กัมพูชา เพื่อให้ได้รับทราบว่าการละเมิดข้อตกลงนี้ เป็นเหตุจากการไม่ซื่อตรง และไม่จริงใจ ของกัมพูชาอย่างชัดเจน - รมว.คลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล เพื่อประเมินผลกระทบจากสถานการณ์ความขัดแย้งไทย-กัมพูชาที่จะ มีต่อภาพรวมเศรษฐกิจไทย โดยหากประเมินในเบื้องต้นที่สถานการณ์ดำเนินมาประมาณ 1 สัปดาห์ หากไม่นับรวมผลกระทบทางการค้า คาด ว่าจะอยู่ที่ราว 1 หมื่นล้านบาท โดยรัฐบาลเตรียมเงินในส่วนที่เหลือจากงบกระตุ้นเศรษฐกิจ เข้ามารองรับผลกระทบจากสถานการณ์ไทย- กัมพูชาได้ และอาจดึงงบประมาณส่วนอื่นเข้ามาเสริมด้วย - "จุลพันธ์" รมช.คลัง ระบุว่า กระทรวงการคลัง อยู่ระหว่างการพิจารณาแนวทางหรือมาตรการในการกระตุ้นเศรษฐกิจใน ช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยเบื้องต้นอาจจะมีการผลักดันมาตรการในการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวเพิ่มเติม ซึ่งอาจเป็นในรูปแบบของมาตการ ทางภาษี โดยขณะนี้กำลังหารือร่วมกันในรายละเอียดอย่างเข้มข้นกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา - ประธานกรรมการหอการค้าไทย ขอให้ฝ่ายเจรจาไทยเร่งหาข้อสรุปอัตราภาษีจากสหรัฐอย่างเป็นธรรมโดยด่วน ก่อนที่จะ ครบกำหนดในวันที่ 1 ส.ค.นี้ เพื่อไม่ให้เกิดช่องว่าง ที่อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่น และการตัดสินใจลงทุนของภาคธุรกิจ หลังจากเส้น ตายดังกล่าว - รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ระบุ ภาพรวมสถานการณ์ท่องเที่ยว ล่าสุดประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติสะสม ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-27 ก.ค. 68 ทั้งสิ้น 18,983,936 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วกว่า 8.7 แสนล้าน บาท พร้อมยอมรับว่าจากความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา มีต่างชาติยกเลิกเดินทางเข้าไทยแล้วประมาณ 8 พันคน - รมว.พาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า การขยายระยะเวลาพักรบทางการค้ากับจีนออกไปอีก 90 วัน เป็นผลลัพธ์ที่มีความเป็นไป ได้สูง ขณะที่การเจรจาระดับสูงระหว่างสองประเทศกำลังดำเนินอยู่ อย่างไรก็ตาม เขาย้ำว่าการตัดสินใจสุดท้าย ขึ้นอยู่กับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ - ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์ข้อความผ่านทางแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียในช่วงเช้าวันนี้ (29 ก.ค.) ระบุว่า สถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาคลี่คลายลงแล้ว หลังข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เที่ยงคืนที่ผ่านมา - รัฐบาลจีนประกาศมาตรการกระตุ้นการเกิดครั้งสำคัญ ด้วยการเปิดตัวโครงการอุดหนุนค่าใช้จ่ายในการดูแลบุตรทั่ว ประเทศ ซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในปีนี้ โดยจะมอบเงินช่วยเหลือครอบครัวปีละ 3,600 หยวน (ราว 503 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อบุตรหนึ่งคนที่ มีอายุต่ำกว่า 3 ปี เพื่อรับมือกับวิกฤตประชากรเกิดใหม่ลดลง และจำนวนผู้สูงวัยที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว - ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) ส่งสัญญาณเตรียมปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในเร็ว ๆ นี้ เพื่อรับมือกับความไม่แน่นอน ทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ โดยชี้ว่า แม้จะคงดอกเบี้ยไว้ที่ 2.50% ในการประชุมเมื่อวันที่ 10 ก.ค. แต่คณะ กรรมการส่วนใหญ่เห็นพ้องว่ายังมีความจำเป็นต้องลดดอกเบี้ยลงอีก - คืนนี้สหรัฐฯ จะมีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ ได้แก่ ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรง งาน (JOLTS) เดือนมิ.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค.จาก Conference Board