ภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยประจำสัปดาห์: มีมูลค่าการซื้อขายรวม 394,561 ลบ.

          สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ประจำสัปดาห์ (1 - 5 กันยายน 2568) 
ปริมาณการซื้อขายตราสารหนี้ มีมูลค่ารวม 394,561 ล้านบาท หรือเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณวันละ 78,912 ล้านบาท ปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าประมาณ 6% 
ทั้งนี้เมื่อแยกตามประเภทของตราสารแล้ว จะพบว่ากว่า 44% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด หรือประมาณ 172,113 ล้านบาท เป็นการซื้อขายในตราสารหนี้
ที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (state Agency Bond) ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นตราสารที่มีอายุคงเหลือค่อนข้างน้อย (ไม่เกิน 6 เดือน) ขณะที่พันธบัตรรัฐบาล
ที่ออกโดยกระทรวงการคลัง (Government Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 181,908 ล้านบาท และหุ้นกู้ที่ออกโดยภาคเอกชน (Corporate Bond) 
มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 17,132 ล้านบาท หรือคิดเป็น 46% และ 4% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตามลำดับ

          สำหรับพันธบัตรรัฐบาล ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรกคือรุ่น LB284A (อายุ 2.6 ปี) SLB406A (อายุ 14.8 ปี) และ LB273A (อายุ 1.5 ปี) 
โดยมีมูลค่าการซื้อขายในแต่ละรุ่นเท่ากับ 36,318 ล้านบาท 20,076 ล้านบาท และ 11,966 ล้านบาท ตามลำดับ

          ขณะที่หุ้นกู้ภาคเอกชน ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ หุ้นกู้ของบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) รุ่น TRUE328A (A+) 
มูลค่าการซื้อขาย 1,020 ล้านบาท หุ้นกู้ของบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) รุ่น BEM279B (BBB+) มูลค่าการซื้อขาย 1,010 ล้านบาท 
และหุ้นกู้ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท รุ่น WHART288C (A) มูลค่าการซื้อขาย 836 ล้านบาท

          อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวลดลง 4-7 bps. ด้านปัจจัยในประเทศ รายงานดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปประจำเดือน ส.ค.2568 เท่ากับ 100.14 
ลดลง 0.79% (YoY) โดยมีสาเหตุหลักมาจากการลดลงของราคาสินค้าในกลุ่มอาหารสด รวมถึงกลุ่มพลังงานจากการลดลงของน้ำมันเชื้อเพลิงตามสถานการณ์ราคาน้ำมัน
ในตลาดโลก ด้านปัจจัยต่างประเทศ นายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ สมาชิกคณะกรรมการผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) กล่าวสนับสนุนให้เฟดเริ่มวงจรการปรับลด
อัตราดอกเบี้ยการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ในเดือนนี้ และเฟดมีความยืดหยุ่นที่จะปรับอัตราการปรับลดดอกเบี้ยได้ตามสถานการณ์ในอนาคต 
ขณะที่ ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) รายงานการจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐฯ ประจำเดือนส.ค. เพิ่มขึ้นเพียง 54,000 ตำแหน่ง ต่ำกว่า
ตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 75,000 ตำแหน่ง ด้านสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตประจำเดือนส.ค. 
เพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 49.4 ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ 49.5 จากการส่งออกที่อ่อนแอลงจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ

          สัปดาห์ที่ผ่านมา (1 - 5 กันยายน 2568) กระแสเงินลงทุนต่างชาติไหลออกตลาดตราสารหนี้ไทยรวมสุทธิ 2,130 ล้านบาท โดยเป็นการซื้อสุทธิใน
ตราสารหนี้ระยะสั้น (ST) (อายุคงเหลือไม่เกิน 1 ปี) 144 ล้านบาท และขายสุทธิในตราสารหนี้ระยะยาว (LT) (อายุมากกว่า 1 ปี) 1,173 ล้านบาท และ
มีตราสารหนี้ที่ถือครองโดยนักลงทุนต่างชาติหมดอายุ 1,101 ล้านบาท

          หมายเหตุ: อันดับเครดิต หมายถึง อันดับเครดิตของหุ้นกู้เฉพาะรุ่น หรือ อันดับเครดิตของผู้ออกหุ้นกู้
          ดัชนีหุ้นกู้เอกชน (Corp Bond Gross Price Index) เปลี่ยนเป็น ดัชนีหุ้นกู้เอกชน(MTM Corp Bond Gross Price Index) ตั้งแต่ ม.ค. 2565

ความเคลื่อนไหวในตลาดตราสารหนี้ไทย                                    สัปดาห์นี้         สัปดาห์ก่อนหน้า     เปลี่ยนแปลง             สะสมตั้งแต่ต้นปี
                                                        (1 - 5 ก.ย. 68)   (25 - 29 ส.ค. 68)           (%)    (1 ม.ค. - 5 ก.ย. 68)
มูลค่าการซื้อขาย แบบปกติ - Outright Trading (ล้านบาท)              394,561.16          419,812.35        -6.01%           14,793,179.52
มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน (ล้านบาท)                                 78,912.23           83,962.47        -6.01%               90,202.31
ดัชนีพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Gross Price index)                      117.94              117.35         0.50%                 
ดัชนีหุ้นกู้เอกชน (MTM Corp Bond Gross Price Index)                    109.96              109.79         0.15%  

เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Yield Curve) --%
ช่วงอายุของตราสารหนี้                    1 เดือน     6 เดือน     1 ปี     3 ปี     5 ปี     10 ปี     15 ปี     30 ปี
สัปดาห์นี้ (5 ก.ย. 68)                     1.33        1.3    1.27    1.09    1.11     1.25     1.44     1.87
สัปดาห์ก่อนหน้า (29 ส.ค. 68)               1.33       1.31    1.28    1.15    1.17     1.32      1.5     1.91
เปลี่ยนแปลง (basis point)                   0         -1      -1      -6      -6       -7       -6       -4