ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (2 ธ.ค.) หลังมีรายงานว่าเงินเฟ้อในกลุ่มยูโรโซนปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในเดือนพ.ย. ซึ่งอาจลดโอกาสที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ โดยถูกกดดันจากกระแสคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ ก่อนที่การประชุมนโยบายการเงินของเฟดจะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.06% แตะที่ 99.357
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8032 ฟรังก์ จากระดับ 0.8044 ฟรังก์ในวันจันทร์ (1 ธ.ค.) และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3971 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3997 ดอลลาร์แคนาดา แต่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 155.88 เยน จากระดับ 155.48 เยน
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1622 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1608 ดอลลาร์ในวันจันทร์ ส่วนเงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.3211 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3213 ดอลลาร์
ยูโรแข็งค่าขึ้นหลังจากมีรายงานว่า เงินเฟ้อของประเทศในกลุ่มยูโรโซนปรับตัวขึ้นแตะระดับ 2.2% ในเดือนพ.ย. จากระดับ 2.1% ในเดือนต.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ซึ่งอาจลดโอกาสที่ ECB จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ส่วนดอลลาร์ยังคงได้รับแรงกดดันการกระแสคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 9-10 ธ.ค. หลังจากเจ้าหน้าที่เฟดหลายรายส่งสัญญาณสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักมากถึง 89.2% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งจะเป็นการปรับลดดอกเบี้ยครั้งที่ 3 ติดต่อกัน
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ประจำเดือนก.ย.ของสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้อย่างใกล้ชิด เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
ด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี PCE จะเพิ่มขึ้น 2.8% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เพิ่มขึ้น 2.7% ในเดือนส.ค. และคาดว่าดัชนี PCE พื้นฐาน (Core PCE) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 2.9% ในเดือนก.ย. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 2.9% เช่นเดียวกันในเดือนส.ค.