ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดลบ 9.73 จุด หุ้นกลุ่มการเงินกดดันตลาด

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงในวันพุธ (3 ธ.ค.) โดยถูกกดดันจากการปรับตัวลงของหุ้นกลุ่มการเงิน ขณะที่หุ้นเหมืองแร่และพลังงานปรับตัวขึ้นก่อนการตัดสินใจอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดตลาดที่ระดับ 9,692.07 จุด ลดลง 9.73 จุด หรือ -0.10%

หุ้นกลุ่มเหมืองแร่โลหะอุตสาหกรรมพุ่งขึ้น 3.3% หลังราคาทองแดงทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยหุ้น Glencore พุ่งขึ้น 6.3% แตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 10 เดือน หลังบริษัทระบุว่าตั้งเป้าผลิตทองแดงให้ได้ 1.6 ล้านตันภายในปี 2578

หุ้น Antofagasta พุ่งขึ้น 4.9% และ Anglo American พุ่งขึ้น 2.5%

หุ้นกลุ่มการบินและป้องกันประเทศปรับตัวขึ้น 1.4% หลังรัสเซียระบุว่า การเจรจากับเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ในกรุงมอสโกยังไม่สามารถหาข้อยุติเกี่ยวกับข้อตกลงสันติภาพยูเครน โดยหุ้น Rolls-Royce เพิ่มขึ้น 1.6% และหุ้น Babcock International บวก 1.5%

หุ้นกลุ่มพลังงานเพิ่มขึ้น 0.7% ตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น โดยหุ้น BP เพิ่มขึ้น 1.3%

ในทางกลับกัน หุ้นกลุ่มธนาคารรายใหญ่ร่วงลง 1.7%

หน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินของสหราชอาณาจักรระบุว่า จะยกเลิกการระงับการดำเนินการร้องเรียนด้านสินเชื่อรถยนต์ในวันที่ 31 พ.ค. 2569 ซึ่งเร็วกว่าแผนเดิมสองเดือน เพื่อเตรียมสรุปโครงการชดเชยผู้ที่ได้รับผลกระทบจากกรณีอื้อฉาวด้านการขายแบบผิดพลาด

กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2550 โดยเกี่ยวข้องกับผู้ให้กู้รายใหญ่อย่าง Lloyds, Close Brothers และ Barclays ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเรียกเก็บดอกเบี้ยสูงเกินควรในสัญญาไฟแนนซ์รถยนต์และมีการให้โบนัสเพิ่มเติมแก่ตัวแทนจำหน่าย

หุ้น Lloyds Banking ลดลง 1.4% ส่วน Close Brothers และ Barclays ต่างลดลงราว 0.7%

หุ้น HSBC Holdings ลดลง 1.6% หลังบริษัทแต่งตั้ง เบรนแดน เนลสัน รักษาการประธานกรรมการ ขึ้นเป็นซีอีโอถาวรแบบไม่คาดหมาย

ผลสำรวจชี้ว่าการเติบโตของธุรกิจบริการในสหราชอาณาจักรชะลอลงในเดือนที่ผ่านมา และการจ้างงานหดตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. ในช่วงก่อนการประกาศงบประมาณของรัฐบาล

หุ้นกลุ่มเภสัชกรรมปรับตัวลง 0.5% ขณะที่หุ้นกลุ่มสินค้าบริโภคจำเป็น อาทิ Marks & Spencer และ British American Tobacco ต่างลดลง

สำหรับหุ้นรายตัวนั้น หุ้น Sainsbury ร่วงลง 4.2% หลังเอกสารเงื่อนไขทางการเงินเปิดเผยว่า กองทุนความมั่งคั่งของกาตาร์มีแผนจะลดสัดส่วนการถือหุ้นในเครือซูเปอร์มาร์เก็ตดังกล่าว

ขณะที่หุ้น London Stock Exchange Group เพิ่มขึ้น 1.4% หลังบรรลุข้อตกลงกับ OpenAI เพื่อนำข้อมูลและการวิเคราะห์ทางการเงินของบริษัทไปใช้ใน ChatGPT