ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบในวันศุกร์ (5 ธ.ค.) และปิดตลาดสัปดาห์นี้ร่วงลง โดยได้รับแรงกดดันจากหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มการเงินที่ปรับตัวลง แม้นักลงทุนเพิ่มความคาดหวังว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า หลังข้อมูลเงินเฟ้อสำคัญของสหรัฐฯ สนับสนุนมุมมองดังกล่าว
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดตลาดที่ระดับ 9,667.01 จุด ลดลง 43.86 จุด หรือ -0.45%
หุ้นกลุ่มน้ำมันและก๊าซปรับตัวลงตามทิศทางราคาน้ำมัน โดยหุ้น Shell ลดลง 1.4% ส่วนหุ้น BP ร่วงลง 2.6% หลัง Bank of America Global Research ปรับลดคำแนะนำลงทุนจากระดับ neutral เป็น underperform
หุ้นธนาคารขนาดใหญ่ลดลง 1.2% โดยหุ้น Standard Chartered, Barclays และ HSBC ต่างปรับตัวลงกว่า 1%
หุ้นกลุ่มอากาศยานและกลาโหมลดลง โดยหุ้น BAE Systems และหุ้น Rolls-Royce ปรับตัวลงเล็กน้อย
ในทางกลับกัน หุ้นกลุ่มสินค้าเฉพาะบุคคลเป็นหนึ่งในกลุ่มที่ทำผลงานโดดเด่น โดยหุ้น Watches of Switzerland พุ่งขึ้น 2.6% หลังโบรกเกอร์สามรายปรับเพิ่มราคาเป้าหมาย ขณะที่หุ้น Burberry เพิ่มขึ้น 1.4%
หุ้นกลุ่มเคมีภัณฑ์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1%
ส่วนดัชนีหุ้นกลุ่มวาณิชธนกิจและนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น 1.1% โดยหุ้น 3i Group พุ่งขึ้น 2.5%
ความคาดหวังของนักลงทุนต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดเพิ่มสูงขึ้นหลังข้อมูลดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ บ่งชี้ถึงการชะลอตัวของภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ