สำนักข่าวรอยเตอร์เปรียบเทียบศักยภาพทางทหารระหว่างไทยและกัมพูชา ดังนี้:-
กัมพูชามีงบกลาโหม 1.3 พันล้านดอลลาร์ในปี 2567 และมีกำลังทหาร 124,300 นาย ส่วนประเทศไทย ซึ่งสหรัฐจัดให้เป็นพันธมิตรสำคัญนอกองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) มีกองทัพขนาดใหญ่ และได้รับงบประมาณจำนวนมาก โดยไทยมีงบกลาโหม 5.73 พันล้านดอลลาร์ในปี 2567 และมีกำลังทหารกว่า 360,000 นาย
🔴*กองทัพบก
กัมพูชามีกำลังพลราว 75,000 นาย รถถังกว่า 200 คัน และปืนใหญ่ราว 480 กระบอก
ส่วนไทยมีกำลังพลราว 245,000 นาย รวมทั้งทหารเกณฑ์ 115,000 นาย รถถังราว 400 คัน รถหุ้มเกราะกว่า 1,200 คัน และปืนใหญ่ราว 2,600 กระบอก
นอกจากนี้ กองทัพบกยังมีกองบินของตนเอง ประกอบด้วยเครื่องบินโดยสาร เฮลิคอปเตอร์ เช่น แบล็กฮอว์กจากสหรัฐหลายสิบลำ และอากาศยานไร้คนขับ
🔴*กองทัพอากาศ
กัมพูชามีกำลังพล 1,500 นาย มีฝูงบินขนาดเล็ก ประกอบด้วยเครื่องบินลำเลียง 10 ลำ และเฮลิคอปเตอร์ 10 ลำ และไม่มีเครื่องบินขับไล่
กัมพูชามีเฮลิคอปเตอร์อเนกประสงค์ 16 ลำ ได้แก่ Mi-17 จากยุคโซเวียต 6 ลำ และ Z-9 จากจีน 10 ลำ
ส่วนไทยเป็นหนึ่งในกองทัพอากาศที่ทันสมัยและได้รับการฝึกอบรมดีที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีกำลังพลราว 46,000 นาย เครื่องบินรบ 112 ลำ รวมทั้ง F-16 จำนวน 28 ลำ Gripen จากสวีเดน 11 ลำ และมีเฮลิคอปเตอร์อีกหลายสิบลำ
🔴*กองทัพเรือ
กัมพูชามีกำลังพลราว 2,800 นาย รวมทั้งนาวิกโยธิน 1,500 นาย มีเรือตรวจการณ์และเรือรบชายฝั่ง 13 ลำ และเรือสะเทินน้ำสะเทินบก 1 ลำ
ส่วนไทยมีกำลังพลเกือบ 70,000 นาย แบ่งเป็นกองบินทหารเรือ นาวิกโยธิน หน่วยป้องกันชายฝั่ง และทหารเกณฑ์
ไทยมีเรือบรรทุกเครื่องบิน 1 ลำ ฟริเกต 7 ลำ และเรือตรวจการณ์/เรือรบชายฝั่ง 68 ลำ
นอกจากนี้ ไทยยังมีเรือสะเทินน้ำสะเทินบกหลายลำ สามารถบรรทุกทหารได้หลายร้อยนาย และเรือยกพลขึ้นบกขนาดเล็กอีก 14 ลำ
กองทัพเรือยังมีเครื่องบินและอากาศยานไร้คนขับของตนเอง และมีนาวิกโยธิน 23,000 นาย