จากประเด็นต่อเนื่อง ภายหลังจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้แถลงข่าวความคืบหน้าคดีเครือข่ายคณะบุคคลซึ่งเกี่ยวข้องกับความเสียหายทางการเงินจำนวนมาก และมีมาตรการยึดและอายัดทรัพย์สินของผู้ต้องหาหรือผู้ที่เกี่ยวข้อง และมีการขยายผล
แต่หนึ่งในต้นตอที่ควรมีการขยายผลคือ กระบวนการ KYC/CDD ในการเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์และซื้อหุ้นจนถูกอายัดที่กำลังเป็นข่าวใหญ่ตอนนี้ เนื่องจากช่องทางนี้กลายเป็นทางผ่านในการเปิดประตูให้เกิดความสมบูรณ์ของธุรกรรมการซื้อหุ้นเหล่านี้
สำหรับคำอธิบายแบบง่าย ๆ ที่ทุกคนเข้าใจได้ ของ การทำ KYC-CDD คือ เวลาจะเปิดบัญชีซื้อขายหุ้น โบรกเกอร์จะให้เรากรอกข้อมูลเต็มไปหมด ทั้งถ่ายบัตรประชาชน เซลฟี่ ตรวจข้อมูลต่าง ๆ
หลายคนอาจสงสัยว่า ทำไมต้องยุ่งยากแบบนี้? คำตอบคือ ขั้นตอนที่เรียกว่า KYC–CDD มีความสำคัญมากกว่าที่คิด
KYC (Know Your Customer) คือ ขั้นตอนที่โบรกเกอร์ต้องรู้จักลูกค้าว่าเป็นใคร? ใช้บัตรตัวจริงไหม, ที่อยู่ เบอร์โทร ตัวตนจริงหรือเปล่า
ส่วน CDD (customer due diligence) คือการพิสูจน์ให้ทราบตัวตนว่าลูกค้าแต่ละรายนั้นเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการฟอกเงินหรือไม่ โดยจะมีทั้งการตรวจสอบข้อมูลรายชื่อบุคคลเสี่ยงทั้งระดับชาติ และระดับ international ตลอดจนพิสูจน์ทราบแหล่งรายได้ ความร่ำรวย หรือที่มาขอเงินที่จะนำมาลงทุนว่ามีความสอดคล้องกับปริมาณเงินลงทุนหรือไม่
รวมถึงการมอนิเตอร์ความเคลื่อนไหวในการลงทุนว่ามีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปในลักษณะที่มีความเสี่ยงต่อการฟอกเงินตลอดระยะเวลาของการเทรดหุ้นหรือไม่
ทั้งสองวิธีการนี้ โบรกเกอร์จะต้องทำเพื่อความปลอดภัยของตลาดทุน
1.ป้องกันคนเอาชื่อเราไปเปิดบัญชีแทน
ถ้าไม่มีการยืนยันตัวตน มิจฉาชีพอาจใช้ข้อมูลเราไปทำเรื่องผิดกฎหมายได้ การทำ KYC จะช่วยยืนยันว่า "คนเปิดบัญชี เราตัวจริง"
2.ป้องกันการฟอกเงินและการใช้บัญชีทำเรื่องผิดกฎหมาย
บัญชีหุ้นก็ถูกใช้ฟอกเงินได้เหมือนกัน ดังนั้น กระบวนการ CDD จะช่วยตรวจจับความผิดปกติ เช่น ทำธุรกรรมแปลก ๆ มีเงินเข้าออกไม่สัมพันธ์กับรายได้
3.ทำให้ตลาดหุ้นโปร่งใส น่าเชื่อถือ ถ้าทุกคนยืนยันตัวตนอย่างถูกต้อง จะไม่มีบัญชีบังหน้า (บัญชีผี) หรือ บัญชีที่ใช้นอมินี เพื่อปิดบังผู้รับผลประโยชน์ที่แท้จริงในการเทรดหุ้นที่ไม่มีตัวตน ลดการปั่นหุ้น ตลาดหุ้นดูดีขึ้นจากสายตาของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ
4.ช่วยให้โบรกเกอร์แนะนำการลงทุนเหมาะสมกับเรา
ข้อมูล KYC–CDD บอกว่าเราเป็นนักลงทุนประเภทไหน รับความเสี่ยงได้มาก น้อยแค่ไหน และรู้ประวัติว่า เคยลงทุนมาก่อนหรือไม่ โบรกเกอร์จะใช้ข้อมูลนี้เตือนเราถ้ากำลังจะลงทุนในสินค้าที่ "เสี่ยงเกินไป"
ทั้งนี้ KYC–CDD ไม่ใช่แค่ขั้นตอนเปิดบัญชี แต่มันคือ "ปราการสำคัญ" ของทั้งระบบ
หากไม่มี KYC–CDD ตลาดหุ้นจะไร้ความปลอดภัยและไร้ความน่าเชื่อถืออย่างสิ้นเชิง
สรุป KYC–CDD มีไว้เพื่อปกป้องคุณจากการถูกสวมรอย, ปกป้องตลาดหุ้นจากการฟอกเงินและอาชญากรรม, ทำให้ระบบการลงทุนโปร่งใสและปลอดภัย, ช่วยให้คุณลงทุนในสิ่งที่เหมาะกับความเสี่ยงของตัวเอง
ฉะนั้น ตลาดทุนอยากเห็นความโปร่งใส่ในการตรวจสอบกระบวนการ KYC/CDD จาก ก.ล.ต. ในทุกโบรกเกอร์ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดช่องโหว่ในการฟอกเงินของโจรใส่สูทอีกต่อไป
ธิติ ภัทรยลรดี