ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันอังคาร (16 ธ.ค.) สัญญาข้าวสาลีปรับตัวลงติดต่อกันเป็นวันทำการที่ 3 และทำสถิติต่ำสุดครั้งใหม่ โดยตลาดถูกกดดันจากรายงานผลผลิตที่เพิ่มขึ้นในอาร์เจนตินาและออสเตรเลีย รวมถึงความคืบหน้าในการเจรจาหยุดยิงระหว่างรัสเซียกับยูเครนซึ่งส่งผลกระทบต่อทิศทางราคาธัญพืช
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 3.25 เซนต์ หรือ -0.74% ปิดที่ระดับ 4.3650 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 11.25 เซนต์ หรือ -2.16% ปิดที่ 5.0950 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 9.00 เซนต์ หรือ -0.84% ปิดที่ 10.6275 ดอลลาร์/บุชเชล
ปัจจัยลบสำคัญที่มีต่อราคาข้าวสาลีมาจากข้อมูลของตลาดแลกเปลี่ยนธัญพืชโรซาริโอ (Rosario Grains Exchange) ที่ปรับเพิ่มประมาณการผลผลิตข้าวสาลีของอาร์เจนตินาขึ้นสู่ระดับ 27.7 ล้านเมตริกตัน จากเดิมที่ระดับ 24.5 ล้านเมตริกตัน ขณะที่ออสเตรเลียมีแนวโน้มจะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้มากที่สุดเป็นอันดับ 3 ซึ่งตอกย้ำถึงภาวะอุปทานล้นตลาดโลก
การอ่อนตัวของราคาข้าวสาลีส่งผลกระทบต่อเนื่องไปยังตลาดข้าวโพด เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าอุปทานข้าวสาลีที่มีราคาถูกกว่าอาจถูกนำมาใช้ทดแทนข้าวโพดในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์
ทางด้านสัญญาถั่วเหลืองก็ปรับตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์ โดยได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์การส่งออกของสหรัฐฯ และกระแสคาดการณ์ผลผลิตจำนวนมากจากบราซิล นอกจากนี้ ตลาดยังผิดหวังต่ออัตราการสั่งซื้อสินค้าจากจีนภายหลังการเจรจาการค้าระหว่างรัฐบาลสหรัฐฯ กับจีน ประกอบกับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ดิ่งลงต่ำกว่าระดับ 60 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล จากแนวโน้มสันติภาพในยูเครนซึ่งอาจนำไปสู่การผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตร ได้สร้างแรงกดดันเพิ่มเติมต่อตลาดถั่วเหลือง
สมาคมผู้แปรรูปพืชน้ำมันแห่งชาติ (NOPA) รายงานว่า ยอดการสกัดน้ำมันถั่วเหลืองในสหรัฐฯ ชะลอตัวลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเดือนพ.ย. แม้จะยังคงเป็นสถิติสูงสุดประจำเดือนดังกล่าวก็ตาม