ไทยพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 28 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย

  • ศบค.สรุปยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในไทย วันที่ 17 เม.ย. (11.30 น.)
  • ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ยอดสะสม 2,700 คน (+28)
  • รักษาหายแล้ว 1,689 คน (+96)
  • ยังรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล 964 คน
  • เสียชีวิต 47 คน (+1)

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 28 คน ทำให้มีจำนวนผู้ป่วยสะสมรวมทั้งสิ้น 2,700 คน จำนวนผู้ป่วยที่กลับบ้านได้แล้วรวมทั้งสิ้น 1,689 คน รักษาตัวอยู่ใน รพ. วันนี้ลดลงมาต่ำกว่า 1,000 โดยอยู่ที่ 964 ราย มีผู้เสียชีวิต 1 คน รวมผู้เสียชีวิตสะสม 47 คน

ผู้เสียชีวิตรายใหม่วันนี้เป็นหญิงไทยวัย 85 ปี อาชีพแม่บ้าน มีโรคประจำตัวเป็นโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง โดยมีประวัติช่วงวันที่ 22 มี.ค.-2 เม.ย.สัมผัสผู้ป่วยโควิด-19 ต่อมาวันที่ 12 เม.ย.เข้ารักษาอาการครั้งที่ 2 ใน รพ.จังหวัดชุมพรที่เคยเข้ามารักษาก่อนหน้านั้น มีอาการไข้ ไอ เหนื่อยหอบ แพทย์ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ เอ็กซ์เรย์พบปอดอักเสบรุนแรงและตรวจยืนยันพบเชื้อโควิด-19 จากนั้นวันที่ 15 เม.ย.อาการแย่ลง จนกระทั่งเสียชีวิตในวันที่ 16 เม.ย.

สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ 28 รายวันนี้มาจาก กลุ่มผู้ป่วยที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้า หรือเกี่ยวข้องกับสถานที่ที่พบผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ 16 ราย, ไปสถานที่ชุมนุมชน เช่น ห้างสรรพสิค้า ตลาดนัด สถานที่ท่องเที่ยว 1 ราย, ผู้มีอาชีพเสี่ยง ทำงานสถานที่แออัด หรือทำงานใกล้ชิดสัมผัสชาวต่างชาติ 4 ราย และอยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 7 ราย

ขณะที่จังหวัดที่ไม่มีผู้ป่วยรายงานในช่วง 14 วันที่ผ่านมามี 27 จังหวัด คือ เชียงราย เพชรบุรี เพชรบูรณ์ แพร่ แม่ฮ่องสอน กาญจนบุรี จันทบุรี นครนายก บุรีรัมย์ มหาสารคาม มุกดาหาร ยโสธร ร้อยเอ็ด ราชบุรี ลพบุรี ลำพูน ศรีสะเกษ สมุทรสงคราม สระบุรี สุโขทัย หนองบัวลำภู อำนาจเจริญ อุดรธานี อุตรดิตถ์ และอุทัยธานี โดยในวันนี้มีเพิ่ม 2 จังหวัด ได้แก่ กาฬสินธุ์ หนองคาย ส่วนจังหวัดที่ไม่มีรายงานผู้ป่วย 9 จังหวัด สำหรับกรุงเทพยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่วนจังหวัดอื่นๆลดลง

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า วันนี้จะมีนักเรียกแลกเปลี่ยนจากสหรัฐฯเดินทางกลับมา 132 คน (ลงที่สุวรรณภูมิ) วันที่ 18 เม.ย.เดินทางกลับมา 131 คน (ลงสุวรรณภูมิ) และวันที่ 19 เม.ย.จะไปลงที่อู่ตะเภาอีก 161 คน ซึ่งยืนยันว่ามีระบบการดูแลอย่างดี และปลอดภัย และเมื่อพ้นช่วงกักตัว 14 วันจะให้เดินทางกลับจะมีการตรวจเช็คร่างกายว่าไม่มีเชื้อแล้ว

ด้านความมั่นคง ยังพบการรายงานการฝ่าฝืนมาตรการ อาทิ การออกนอกเคหสถาน และยังคงมีการชุมนุม มั่วสุม แต่ก็ลดลงจากววานนี้

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงการจะยกเลิกการล็อคดาวน์นั้น ทางองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ระบุว่า หากรัฐบาลที่ต้องการลดระดับมาตรการควบคุมโรค จะต้องมีคุณสมบัติตามเกณฑ์ 6 ข้อ ดังนี้

1.สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคภายในประเทศได้แล้ว

2.ระบบสุขภาพต้องสามารถตรวจหาผู้มีอาการของโรค ตรวจหาเชื้อ แยกตัวและทำการรักษา พร้อมทั้งทำการสอบสวนโรค

3.มีความเสี่ยงระดับน้อยที่สุดในสถานที่เสี่ยงภัยมากที่สุด เช่น บ้านพักคนชรา

4.โรงเรียน ภาครัฐ สถานที่สาธารณะ ต้องมีการควบคุมโรคอย่างมีประสิทธิภาพ

5.สามารถจัดการความเสี่ยงของโรคจากผู้ที่เดินทางเข้าประเทศได้

6.คนในชุมชนต้องมีความรู้ มีส่วนร่วมและได้รับการสนับสนุนให้มีชีวิตอยู่ภายใต้สังคมที่เปลี่ยนไปหลังการเกิดโรค

ทั้งนี้ สำหรับประเทศไทย สามารถดำเนินการตามหลักเกณฑ์ได้ส่วนใหญ่ แต่ข้อที่ยากที่สุด คือ ในกรณีคนในชุมชนต้องมีความรู้ มีส่วนร่วมและได้รับการสนับสนุนให้มีชีวิตอยู่ภายใต้สังคมที่เปลี่ยนไปหลังการเกิดโรค เนื่องจากยังมีบางกลุ่มยังนัดดื่มสุรา สังสรรค์ เล่นพนัน และที่ผ่านมาจะเห็นว่ามีการติดเชื้อในสถานบันเทิง สนามมวย

“จะปลดล็อคดาวน์ได้ ข้อ 6 สำคัญ ซึ่งขณะนี้มีการประชุมของทั้งนักวิชาการ ด้านการแพทย์ สังคม ทั้งรัฐและเอกชน เพื่อเตรียมนำเสนอ ผอ.ศูนย์ ศบค. เพราะภายในสัปดาห์หน้าจะมีการตัดสิน เพื่อผ่อนคลายบางอย่าง…และจำเป็นต้องมีการปฏิบัติตัวกันใหม่ ที่เรียกว่า New Normal”

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 เม.ย. 63)

Tags: , , , ,
Back to Top