บขส.เริ่มเดินรถเส้นทางภาคเหนือ-อีสาน-ตะวันออก 18 พ.ค. ส่วนภาคใต้เริ่ม 1 มิ.ย.

บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) แจ้งว่า บขส. เตรียมเปิดเดินรถในเส้นทางภาคเหนือ จำนวน 7 เส้นทาง และเส้นทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก จำนวน 9 เส้นทาง ตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่มีความจำเป็นต้องเดินทาง หลังจากที่ บขส.หยุดให้บริการชั่วคราว จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)

เส้นทางเดินรถภาคเหนือ 7 เส้นทาง ได้แก่ กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ,กรุงเทพ-เชียงราย, กรุงเทพฯ-อตรดิตถ์, กรุงเทพ-สารจิตร, กรุงเทพฯ-แม่สอด, กรุงเทพฯ-หล่มเก่า และ กรุงเทพฯ-คลองลาน

เส้นทางเดินรถภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันนอก จำนวน 9 เส้นทาง ได้แก่ กรุงเทพฯ-หนองบัวลำภู, กรุงเทพฯ-สกลนคร, กรุงเทพฯ-เชียงคาน, กรุงเทพฯ-สุรินทร์, กรุงเทพฯ-บุรีรัมย์, กรุงเทพฯ-กัทรลักษ์, กรุงเทพฯ-ศรีสะเกษ, กรุงเทพฯ-รัตนบุรี และ กรุงเทพฯ-จันทบุรี

สำหรับเส้นทางเดินรถภาคใต้ บขส. เตรียมเปิดให้บริการเดินรถ จำนวน 3 เส้นทาง ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2563 ได้แก่ กรุงเทพฯ-เกาะสมุย , กรุงเทพฯ-ภูเก็ต และ กรุงเทพฯ-ตรัง

ทั้งนี้ บริษัทฯ มีมาตรการในการป้องกันความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) สำหรับพนักงานประจำรถ พนักงานจำหน่ายตั๋ว และพนักงานชานชาลา โดยผู้ปฏิบัติงานต้องดูแลสุขภาพ และรักษาความสะอาดอย่างเคร่งครัด ต้องตรวจวัดอุณหภูมิก่อนปฏิบัติงาน และสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาในขณะปฏิบัติงาน

ด้านรถโดยสารและสิ่งอำนวยความสะดวก บริษัทฯ จัดที่นั่งภายในรถโดยสารเว้นระยะนั่งอย่างน้อย 1 เมตร ตามนโยบาย Social Distancing ทำความสะอาดรถโดยสาร ห้องน้ำ และจุดที่สัมผัสบ่อย ก่อนและหลังให้บริการ มีการเปิดระบายอากาศภายในรถ และนำรถโดยสารจอดตากแดด หลังให้บริการทุกวัน อย่างน้อยวันละ 1-2 ชั่วโมง

ด้านสถานีขนส่งผู้โดยสาร มีการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย จัดพื้นที่นั่งคอยภายในสถานีขนส่งผู้โดยสาร จัดเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดสม่ำเสมอ ประชาสัมพันธ์ให้สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดการเดินทาง หมั่นล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ชนิดเจลหรือน้ำอยู่เสมอ และเว้นระยะห่างนั่ง หรือยืนอย่างน้อย 1 เมตร พร้อมทั้งได้ประสานงานกับขนส่งจังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการป้องกันและควบคุมไม่ให้มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคมอย่างเคร่งครัด

นอกจากนี้ ผู้ใช้บริการภายในสถานีขนส่งและรถโดยสาร ต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดการเดินทาง ต้องผ่านการคัดกรองผู้โดยสาร หากพบผู้ที่มีอุณหภูมิร่างกายสูงเกินกว่า 37.5 องศาเซลเซียส ห้ามเดินทางโดยเด็ดขาด รวมทั้งผู้โดยสารที่เดินทางข้ามพื้นที่จังหวัด ต้องกรอกข้อมูลคำถามสุขภาพ ตามแบบ ต.8-คค ที่ระบุจุดเดินทางที่ออกและจุดหมายปลายทางที่เป็นประโยชน์ต่อการควบคุมโรคติดต่อ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 พ.ค. 63)

Tags: , , ,
Back to Top