ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ เปิดเผยว่า เขาได้สั่งการให้กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ หรือ National Guard ถอนกำลังออกจากกรุงวอชิงตันดีซีแล้ว ภายหลังจากที่กองกำลังดังกล่าวถูกส่งเข้าไปปราบปรามการประท้วงอันมีต้นตอมาจากการเสียชีวิตของนายจอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวดำที่เสียชีวิตระหว่างถูกตำรวจจับกุมตัวในเมืองมินนีแอโพลิสเมื่อสัปดาห์ก่อน

ปธน. ทรัมป์ทวีตข้อความในช่วงเช้าวันอาทิตย์ว่า “ผมได้สั่งการให้กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิของเราถอนกำลังออกจากวอชิงตันดีซีแล้ว ตอนนี้ทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมเป็นอย่างดี พวกเขาจะได้กลับบ้าน แต่ก็สามารถกลับเข้ามาประจำการได้ในทัน หากมีความจำเป็น เมื่อคืนนี้มีผู้ประท้วงออกน้อยกว่าที่เราคิดไว้มาก”
I have just given an order for our National Guard to start the process of withdrawing from Washington, D.C., now that everything is under perfect control. They will be going home, but can quickly return, if needed. Far fewer protesters showed up last night than anticipated!
— Donald J. Trump (@realDonaldTrump) June 7, 2020
ความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้มีขึ้นท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หลังจากเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา มีทหารในเครื่องแบบปรากฏตัวอยู่หน้าทำเนียบขาว ในขณะที่ผู้ชุมนุมหลายพันคนออกมารวมตัวเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับนายจอร์จ ฟลอยด์ กันอย่างหนาแน่น
ต่อมา มูเรียล โบว์เซอร์ นายกเทศมนตรีกรุงวอชิงตันดีซี ได้ออกมาเรียกร้องให้ ปธน.ทรัมป์ ถอนการบังคับใช้กฎหมายพิเศษและกำลังทหารในพื้นที่เมืองหลวงของประเทศ โดยระบุว่าการประท้วงในวอชิงตันดีซีนั้นไปอย่าง “สันติ” โดยสำนักงานตำรวจวอชิงตันดีซี “ไม่ได้จับกุมผู้ประท้วงแม้แต่คนเดียว”
ด้านกำลังพิทักษ์มาตุภูมิของวอชิงตันดีซีได้ออกมายืนยันเมื่อวันเสาร์ว่า กำลังดำเนินการสอบสวนเกี่ยวกับกรณีที่มีการใช้เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพในปฏิบัติการสลายการชุมนุม ด้วยการขึ้นบินในความสูงระดับต่ำเหนือทำเนียบขาว เพื่อเคลียร์ทางให้ประธานาธิบดีเดินทางไปโบสถ์ในละแวกนั้นเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสมเป็นอย่างมาก
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 มิ.ย. 63)