บอร์ดรฟท.เห็นชอบสัญญาโครงการรถไฟไทย-จีน คาดลงนามตามแผน

นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการวานนี้ (18 มิ.ย.) ได้มีมติเห็นชอบร่างสัญญาจ้างงานระบบราง ระบบไฟฟ้าและเครื่องกล รวมทั้งจัดหาขบวนรถไฟและจัดฝึกอบรมบุคลากร (สัญญา 2.3 ) โครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพฯ-หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วง กรุงเทพฯ-นครราชสีมา) วงเงิน 50,633.50 ล้านบาท

โดยหลังจากนี้จะเร่งเสนอกระทรวงคมนาคมเพื่อส่งต่ออัยการสูงสุดตรวจร่างสัญญา เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป โดยคาดว่าจะสามารถลงนามได้ในเดือนต.ค. 2563 ตามแผน

ส่วนการก่อสร้างงานโยธาที่ประมูลเสร็จแล้ว 7 สัญญา ยังไม่สามารถลงนามสัญญากับผู้รับจ้างได้เนื่องจาก ต้องแก้ไขเพิ่มเติมรายงานวิเคราะห์ผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม (EIA) จากที่มีการปรับแบบ เช่น สถานีอยุธยา ซึ่งมีประเด็นของการออกแบบที่กรมศิลปากรเห็นว่า การก่อสร้างสถานีรถไฟความเร็วสูงในตำแหน่งเดิม อาจจะมีผลกระทบต่อโบราณสถาน ซึ่งได้มีแนวคิดในการย้ายจุดสถานีออกไปนอกเมืองห่างออกไปประมาณ 7 กม. โดยยังก่อสร้างอยู่ในแนวเขตทางรถไฟ จึงไม่ต้องมีการเวนคืน ซึ่งจะต้องมีการเจรจากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางที่เหมาะสมกับโครงการรถไฟความเร็วสูง

“รถไฟความเร็วสูง ตัวสถานีควรอยู่ในเมือง เพื่อเชื่อมการเดินทางจากเมืองสู่เมือง หากต้องย้ายไปอยู่นอกเมืองต้องประเมินข้อมูลให้รอบคอบ “

นอกจากนี้ บอร์ดรฟท.ยังได้เห็นชอบการขยายระยะเวลาสัญญาจ้างก่อสร้าง โครงการรถไฟทางคู่ ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งมีบมจ. อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) เป็นผู้รับจ้างออกไปอีก 11 เดือน เนื่องจากติดปัญหาการรื้อราง ช่วงทางเลี่ยงสถานีบางส่วนของเส้นทางมีความล่าช้า ซึ่งไม่ใช่ความผิดของผู้รับจ้าง เนื่องจาก รฟท.ไม่สามารถให้ผู้รับจ้างเข้าดำเนินการได้ตามเวลาที่กำหนดเพราะส่งผลกระทบต่อตารางการเดินรถที่จะล่าช้ามากขึ้น จึงจำเป็นต้องขยายเวลาในการเข้าพื้นที่ก่อสร้าง

โดยการขยายระยะเวลาก่อสร้างให้ผู้รับจ้างนี้ ไม่ส่งผลทำให้ค่าก่อสร้างเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม การก่อสร้างที่ล่าช้าอาจจะกระทบต่อกำหนดแผนงานเปิดเดินรถ ซึ่งจะพยายามเร่งรัดให้มีผลกระทบน้อยที่สุด

สำหรับโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ มีระยะทาง 84 กม. วงเงิน 5,807,000,000 บาท ระยะเวลาก่อสร้าง 30 เดือน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 มิ.ย. 63)

Tags: , , , , , , , ,
Back to Top