ไทยพบผู้ติดเชื้อโควิดใหม่ 2 ราย เดินทางมาจากตปท.

  • ศบค.สรุปยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในไทย วันนี้ (11.30 น.)
  • ผู้ติดเชื้อสะสม 3,171 คน (+2)
    • เป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ = 0 ราย
    • เป็นผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศอยู่ในสถานกักกันที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) = 2 ราย
  • ไม่พบผู้ติดเชื้อภายในประเทศติดต่อกันเป็นวันที่ 36
  • รักษาหายแล้ว 3,056 คน (+3)
  • ผู้ป่วยรักษาอยู่โรงพยาบาล 57 คน (-1)
  • เสียชีวิตสะสม 58 คน (+0)

พญ.พรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่ 2 ราย ซึ่งเป็นผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศที่พักอยู่ใน State Quarantine ส่วนในประเทศไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อเนื่อง 36 วัน

สำหรับผู้ป่วยยืนยันสะสมล่าสุดอยู่ที่ 3,171 ราย เป็นผู้ป่วยในประเทศ 2,444 ราย และผู้ป่วยใน State Quarantine จำนวน 234 ราย วันนี้มีผู้ป่วยรักษาหายเพิ่มอีก 3 ราย ทำให้จำนวนผู้ป่วยรักษาหายแล้วรวม 3,056 ราย และยังมีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 57 ราย ขณะที่ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม โดยยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 58 ราย

ผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั้ง 2 รายเดินทางกลับมาจากกาตาร์ เป็นชายวัย 27 ปี และ 28 ปี อาชีพพนักงานนวด กลับมาถึงไทยตั้งแต่วันที่ 16 มิ.ย.และเข้าพักใน State Quarantine ที่ชลบุรี ตรวจหาเชื้อครั้งแรกวันที่ 21 มิ.ย.แต่ไม่พบเชื้อ จากนั้นตรวจครั้งที่ 2 ในวันที่ 27 มิ.ย.พบเชื้อแต่ไม่มีอาการป่วย

ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลก มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสมล่าสุดอยู่ที่ 10,408,433 ราย เสียชีวิตแล้ว 507,497 ราย โดยสหรัฐมีผู้ป่วยยืนยันสะสมมากสุดอยู่ที่ 2,681,811 ราย เสียชีวิตแล้ว 128,783 ราย ส่วนสถานการณ์ของประเทศไทย ขยับมาอยู่อันดับที่ 96

“สถานการณ์ในสหรัฐมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นมากถึงวันละ 44,734 ราย ทำให้ทางการออกมารณรงค์ให้คนหนุ่มสาวในวัยทำงานหันมาใส่หน้ากาก ล้างมือ และเว้นระยะห่าง” พญ.พรรณประภา กล่าว

สรุปการใช้งานแพลตฟอร์มไทยชนะ ล่าสุดมีกิจการ/ร้านค้าลงทะเบียนแล้ว 245,398 แห่ง และจากการตรวจกิจการ/กิจกรรมตามมาตรการผ่อนคลายของศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง เมื่อวานนี้จำนวน 16,507 แห่ง พบว่า ปฏิบัติตามข้อกำหนดไม่ครบ 6 แห่ง ไม่มีแอพไทยชนะ 4,492 แห่ง โดยปัญหาที่พบส่วนใหญ่เป็นเรื่องความแออัด การเว้นระยะห่าง

“หลังจากผ่อนคลายมาตรการระยะที่ 5 ในวันพรุ่งนี้แล้ว การเว้นระยะห่างคงเป็นเรื่องยาก แต่ขอให้ทุกคนดูแลเรื่องการสวมหน้ากากและล้างมือบ่อยๆ” พญ.พรรณประภา กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 มิ.ย. 63)

Tags: , , , ,
Back to Top