หุ้นไทยปิดลบ 0.89 จุด กังวลไวรัสโคโรนา-งบประมาณปี 63 ล่าช้า

SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,573.70 จุด ลดลง 0.89 จุด (-0.06%) มูลค่าการซื้อขาย 61,983.98 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยวันนี้ตอบรับ 3 ปัจจัยลบหลัก คือ 1.กังวลการแพร่ระบาดโรคปอดอักเสบ 2.รับแรงกดดันจากกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันลงค่อนข้างแรง และ 3. วิตกงบประมาณปี 63 จะล่าช้า ด้วยปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ตลาดฯปรับขึ้นไปได้ยาก ด้านตลาดภูมิภาควันนี้แกว่งบวก-ลบสลับกัน

โดยตลาดในแถบเอเชียเหนือจะติดลบมาก จากความกังวลโรคระบาดปอดอักเสบ พรุ่งนี้ตลาดฯคงจะยังแกว่งไซด์เวย์ โดยมีแนวรับ 1,565 หากหลุดแนวนี้สัญญาณทางเทคนิคจะไม่ดีและมีโอกาสที่จะลงมาแถว 1,550 พร้อมให้แนวต้าน 1,580 จุด

  • ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,573.70 จุด ลดลง 0.89 จุด (-0.06%) มูลค่าการซื้อขาย 61,983.98 ล้านบาท
  • การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,577.92 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,567.10 จุด
  • ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 677 หลักทรัพย์ ลดลง 900 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 477 หลักทรัพย์

นายสุโชติ ถิรวรรณรัตน์ ผู้จัดการฝ่ายวิจัย บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลง ตอบรับ 3 ปัจจัยลบหลัก คือ 1.ความกังวลโรคระบาดปอดอักเสบ ทำให้กังวลจะกระทบการท่องเที่ยว และกระทบเศรษฐกิจไทยด้วย 2.ตลาดฯรับแรงกดดันจากกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันปรับตัวลงค่อนข้างแรง จากอุปทานส่วนเกินที่อาจจะมีมากกว่าตลาดคาด

และ 3.เรื่องร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ซึ่งมีความวิตกจะเกิดความล่าช้า ทำให้ในช่วงเช้าทางรมว.คลังได้ระบุเสนอแนวทางแก้ไขด้วยการออกพ.ร.ก.กู้เงินก่อน ส่งผลให้ในช่วงเช้าหุ้นในกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม และกลุ่มรับเหมาฯ ฟื้นตัวขึ้นไปได้ดี แต่ในเวลาต่อมาทางนายกรัฐมนตรีออกมาว่า ให้พิจารณาทางเลือกในมุมอื่นก่อน ส่งผลให้หุ้นในกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม และกลุ่มรับเหมาฯ เผชิญแรงขายออกมาหลังขึ้นไปดีในช่วงเช้าแล้ว

ทั้งนี้ เมื่อเทียบจากในอดีตเวลาเกิดโรคระบาดจะใช้เวลา 1-2 เดือน แต่ครั้งนี้การระบาดของโรคปอดอักเสบคาดว่าจะใช้เวลาราว 1 เดือน ตลาดถึงจะเริ่มนิ่ง ส่วนเรื่องงบประมาณ ปี 63 คงจะต้องรอเวลา ซึ่งอาจยืดเยื้อได้ และตลาดฯคงจะปรับขึ้นได้ยาก ดังนั้นหุ้นที่น่าสนใจลงทุนก็มองเป็นหุ้นที่ให้ปันผลสูง

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้เคลื่อนไหวในแดนบวก-ลบสลับกัน ซึ่งตลาดในแถบเอเชียเหนือจะติดลบมาก จากความกังวลการแพร่ระบาดโรคปอดอักเสบ

แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (24 ม.ค.) นายสุโชติ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะยังแกว่งไซด์เวย์อยู่ โดยมีแนวรับ 1,565 จุด หากหลุดแนวนี้สัญญาณทางเทคนิคจะไม่ดีและมีโอกาสที่จะลงมาแถว 1,550 จุด พร้อมให้แนวต้าน 1,580 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 4,601.48 ล้านบาท ปิดที่ 141.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
BAM มูลค่าการซื้อขาย 3,527.65 ล้านบาท ปิดที่ 27.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
GPSC มูลค่าการซื้อขาย 2,936.01 ล้านบาท ปิดที่ 97.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 2,531.88 ล้านบาท ปิดที่ 25.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
TOP มูลค่าการซื้อขาย 2,091.51 ล้านบาท ปิดที่ 54.50 บาท ลดลง 3.50 บาท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 ม.ค. 63)

Tags: , , ,
Back to Top