ดาวโจนส์ปิดลบ 80.12 จุด วิตกมาตรการกระตุ้นศก.ไม่คืบ

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (13 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายหลังมีรายงานว่า การเจรจาเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่ของสหรัฐยังไม่มีความคืบหน้า นอกจากนี้ การร่วงลงอย่างหนักของราคาหุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ ซึ่งเป็นหนึ่งใน 30 หลักทรัพย์ที่ใช้คำนวณดัชนีดาวโจนส์ ยังเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดดัชนีดาวโจนส์อ่อนแรงลง อย่างไรก็ดี ดัชนี Nasdaq ปิดในแดนบวก เนื่องจากนักลงทุนยังคงเดินหน้าซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี

  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,896.72 จุด ลดลง 80.12 จุด หรือ -0.29%
  • ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,373.43 จุด ลดลง 6.92 จุด หรือ -0.20%
  • ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,042.50 จุด เพิ่มขึ้น 30.26 จุด หรือ+0.27%

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างซบเซาเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ที่ยังไม่คืบหน้า โดยล่าสุดประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่า ประเด็นที่ยังคงสร้างความขัดแย้งในการเจรจาระหว่างทำเนียบขาวและสภาคองเกรส คือการที่พรรคเดโมแครตเรียกร้องให้ร่างกฎหมายเยียวยาภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะต้องรวมถึงการให้เงินช่วยเหลือจากรัฐบาลกลางแก่สำนักงานไปรษณีย์จำนวน 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ และการให้เงินทุนสนับสนุนการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 พ.ย.

ทางด้านนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ กล่าวว่า จุดยืนเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐระหว่างทำเนียบขาวและพรรคเดโมแครตยังคง”ห่างกันเป็นไมล์” โดยพรรคเดโมแครตเสนอให้มีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงินมากกว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะที่ทำเนียบขาวต้องการให้มีวงเงินเพียง 1 ล้านล้านดอลลาร์

หุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ ร่วงลง 11.19% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ในไตรมาส 4 ตามปีงบการเงิน 2563 ของบริษัท ลดลง 9% สู่ระดับ 1.215 หมื่นล้านดอลลาร์ จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 1.34 หมื่นล้านดอลลาร์

หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงตามทิศทางราคาน้ำมันดิบ WTI เมื่อคืนนี้ หลังจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ประกาศปรับลดตัวเลขคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในปีนี้และปีหน้า โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ดิ่งลง 2.45% หุ้นเชฟรอน ลดลง 1% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ลบ 0.36% หุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม ร่วงลง 2.14%

อย่างไรก็ดี ดัชนี Nasdaq ยังคงปิดในแดนบวก เนื่องจากนักลงทุนเดินหน้าซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง โดยหุ้นแอปเปิล พุ่งขึ้น 1.77% หุ้นไมโครซอฟท์ บวก 0.23% หุ้นเฟซบุ๊ก บวก 0.54% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ เพิ่มขึ้น 1.23% หุ้นอัลฟาเบท บวก 0.62%

หุ้นโนวาแวกซ์ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตวัคซีนรายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้น 7.12% หลังจากโนวาแวกซ์ได้ทำข้อตกลงร่วมกับบริษัทเอสเค ไบโอไซแอนซ์ ของเกาหลีใต้ เพื่อจัดหาและการพัฒนาสารแอนติเจนที่ใช้ในวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของโนวาแวกซ์

ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับปัจจัยบวกในระหว่างวัน หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 963,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.1 ล้านราย และเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ

ทั้งนี้ ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกที่มีการรายงานในวันนี้มีจำนวนต่ำกว่า 1 ล้านรายเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 21 มี.ค. หลังพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์แตะระดับ 6.867 ล้านรายในช่วงปลายเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐกำลังฟื้นตัวขึ้น หลังจากที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ ซึ่งได้แก่ ยอดค้าปลีกเดือนก.ค., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนมิ.ย. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนส.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ส.ค. 63)

Tags: , , , ,
Back to Top