MTC ขอดูความคุ้มค่าก่อนยื่นข้อเสนอร่วมทุนออมสินปล่อยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ

นายปริทัศน์ เพชรอำไพ รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.เมืองไทย แคปปิตอล (MTC) เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทยังไม่สามารถสรุปได้ว่าจะเข้ายื่นข้อเสนอต่อธนาคารออมสินเพื่อร่วมกันทำธุรกิจปล่อยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถหรือไม่ เพราะปัจจุบันบริษัทเป็นผู้นำตลาดอยู่แล้ว ดังนั้น คงต้องนำโครงการของธนาคารออมสินมาพิจารณาถึงความคุ้มค่าและผลตอบแทนที่จะได้รับก่อนว่าเป็นอย่างไร และหลักเกณฑ์ในการพิจารณาของธนาคารออมสิน

“องค์กรเราเป็นผู้นำตลาดที่มีศักยภาพอยู่แล้ว มีเงินทุนเพียงพอ และดอกเบี้ยต่ำที่สุดในตลาด แต่ก็สูงกว่าเงื่อนไขของธนาคารออมสินกำหนดไว้ 18% ต่อปี ก็ขอดูว่าเงื่อนไขและข้อเสนอของธนาคารออมสินเป็นอย่างไรบ้าง และเราก็จะทำข้อเสนอกลับไปให้กับธนาคารออมสินพิจารณา เรายินดีที่จะช่วยเหลือประชาชน แต่เรื่องที่จะขอพิจารณาหลัก ๆ คงเป็นความคุ้มค่าและผลตอบแทนในการลงทุนว่าคุ้มค่าไหม ถ้าคุ้มค่าและเขาเลือกเราก็สามารถร่วมทำธุรกิจกันได้ แต่ตอนนี้ผมยังไม่เห็นหนังสือที่ออมสินส่งมาเลยยังไม่ทราบว่าเงื่อนไขที่แน่ชัดเป็นอย่างไรบ้าง”

นายปริทัศน์ กล่าว

บ่ายวันนี้ นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ระบุว่าได้ส่งหนังสือถึงนอนแบงก์ที่ทำธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถที่มีผลกำไรต่อเนื่อง และมีทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท จำนวน 25 บริษัท เพื่อให้ทำข้อเสนอกลับมาภายในเดือน ต.ค.นี้ ในการร่วมกันทำธุรกิจปล่อยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ โดยจะคัดเลือกผู้เสนอเงื่อนไขดีที่สุดมาร่วมทุนเพียง 1 รายคาดว่าจะเริ่มปล่อยสินเชื่อได้ภายในไตรมาส 1/64 มีเงื่อนไขต้องคิดดอกเบี้ยไม่เกิน 18% ต่อปี

นายปริทัศน์ กล่าวว่า ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถของ MTC ถือว่าต่ำที่สุดในตลาดแล้ว แต่ยังสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารออมสินกำหนด ซึ่งบริษัทเชื่อว่าอัตราดอกเบี้ยของบริษัทสามารถช่วยเหลือประชาชนให้เข้าถึงสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำได้ แต่ก็ยินดีที่จะพิจารณาข้อเสนอของธนาคารออมสินเพื่อช่วยเหลือประชาชน แต่ขอพิจารณาความคุ้มค่าก่อน

อย่างไรก็ตามในเรื่องของแหล่งเงินทุนที่ธนาคารออมสินจะเป็นผู้สนับสนุนวงเงินในธุรกิจร่วมทุนทำธุรกิจปล่อยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถให้นั้น บริษัทมองว่าไม่ได้เป็นประเด็นสำคัญในการพิจารณา เพราะบริษัทมีเงินทุนและแหล่งเงินทุนที่มากและเพียงพอในการดำเนินธุรกิจด้วยตัวเองอยู่แล้ว และบริษัทเป็นผู้นำของตลาดที่มีความเข้มแข็ง มีฐานลูกค้าเป็นจำนวนมาก แต่จะเน้นการพิจาณาไปที่ความคุ้มค่าและผลตอบแทนในการลงทุนเป็นหลักที่นำมาตัดสินใจร่วมลงทุน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ก.ย. 63)

Tags: , , , ,
Back to Top