MAKRO ปรับโฉมร้านขายยาในสาขา พร้อมจัดโซนสินค้าสู้โควิดรับ New Normal

นางสาวสนมชนม์ จินานนท์ รองผู้อำนวยการ ฝ่ายจัดซื้อสินค้าบริโภค บมจ.สยามแม็คโคร (MAKRO) กล่าวว่า หลังจากสถานการณ์โควิด-19 ระบาด ทำให้ประชาชนปรับเปลี่ยนพฤติกรรม มีความกังวลเรื่องสุขภาพ หาทางป้องกันตัวเองและครอบครัว ให้ห่างไกลโรค ทำให้เกิดรูปแบบการใช้ชีวิตวิถีใหม่

ที่ส่งผลให้การปรับโฉมร้านขายยาที่มีในสาขาแม็คโคร มีความพิเศษมากกว่าเดิม โดยเฉพาะการจัดวางสินค้าเพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการที่เปลี่ยนไป ซึ่งแม็คโครได้จัดโซนสินค้าสุขอนามัยจำเป็นสำหรับการต่อสู้โควิด-19 และกำลังเป็นที่ต้องการของกลุ่มลูกค้าแม็คโคร ที่เป็นผู้ประกอบการค้าปลีกรายย่อย(โชห่วย) ธุรกิจโฮเรก้า องค์กรต่างๆ ลูกค้าทั่วไป ซึ่งมีความเป็นจำเป็นต้องใช้สินค้าอุปกรณ์ต่างๆ เหล่านี้

“เราออกแบบร้านขายยาโฉมใหม่ให้มีความทันสมัย สะดวกสบาย ให้ความสำคัญกับเภสัชกรประจำร้าน และความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และเวชภัณฑ์ทั่วไป ที่มีจำนวนมากกว่า 1,600 รายการ ซึ่งเรามองว่า ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 อัตราการเติบโตของกลุ่มลูกค้าที่หันมาใส่ใจสุขภาพเพิ่มขึ้นมาก รวมถึงลูกค้ากลุ่มโชห่วย โฮเรก้า ที่ต้องการสินค้าป้องกันสุขอนามัย ฆ่าเชื้อโรค ไปใช้มากขึ้นตามมาตรการรักษาระยะห่างที่ยังคงเข้มงวดในทุกพื้นที่”

นางสาวสนมชนม์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาแม็คโคร พบว่า สินค้าที่เป็นที่ต้องการมากที่สุด ประกอบด้วย หน้ากากอนามัย, ถุงมือ, ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดมือและร่างกาย, และยาสามัญประจำบ้าน ซึ่งร้านขายยา เพื่อสุขภาพและความงามรูปแบบใหม่ ได้มีการเพิ่มสินค้าในหลายกลุ่ม เพื่อสร้างความหลากหลายทั้ง กลุ่มสินค้าเพื่อส่งเสริมเรื่องการมีสุขภาพที่ดีขึ้น (Wellness) เช่น วิตามิน อาหารเสริม เวชสำอาง, กลุ่มสินค้าเพื่อวิถีชีวิตใหม่ (New Normal) เช่น ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขอนามัยแบบครบถ้วนทั้งการทำความสะอาด และการป้องกัน, กลุ่มผลิตภัณฑ์ยาที่แนะนำโดยเภสัชกร สำหรับโรคทั่วไป และ โรคเรื้อรัง, ผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลผิว Skincare และ Personal care โดยแม็คโครนำเสนอสินค้าในรูปแบบแพ็คสำหรับผู้ประกอบการโชห่วย เพื่อนำไปขายต่อ สินค้าขนาดใหญ่สำหรับการใช้งานในองค์กร และ กลุ่มโฮเรก้า รวมถึงสินค้าขนาดปกติสำหรับลูกค้าทั่วไป

ปัจจุบันมีร้านขายยาตั้งอยู่ในสาขาของแม็คโคร 22 สาขา โดยวางแผนทยอยปรับโฉมร้านขายยาให้เป็นรูปแบบใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความน่าสนใจ กระตุ้นกำลังซื้อในลูกค้าทุกกลุ่ม ซึ่งน่าจะทำให้ยอดขายมีโอกาสเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ก.ย. 63)

Tags: , , , , , ,
Back to Top