กรมอนามัยแนะวิธี D.I.Y. ทำหน้ากากใช้เอง

จากกระแสความกังวลเกี่ยวกับจำนวนหน้ากากอนามัยที่กลายเป็นสินค้าหายาก แม้กรมอนามัยจะยืนยันว่ามีการผลิตจำนวนเพียงพอกับประชาชน แต่การกระจายยังไม่ทั่วถึง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างดำเนินการแก้ไขปัญหานี้อย่างเร่งด่วน

ทั้งนี้ กรมอนามัยได้ให้ความรู้ประชาชนในการนำผ้ามาตัดเย็บเป็นหน้ากากอนามัยด้วยตัวเอง โดยเผยแพร่เป็นคลิปวิดีโอแนะแนวทางปฎิบัติอย่างถูกวิธี และการเลือกใช้ผ้าที่ปลอดภัยป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนาได้

นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากการเผยแพร่ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับโรคปอดอักเสบจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 มาอย่างต่อเนื่อง พบว่าประชาชนเกิดการรับรู้และใส่ใจในการป้องกันตนเองมากขึ้น

ซึ่งหลักการสำคัญในการป้องกันโรค คือ การใช้หน้ากากอนามัยและการล้างมือ โดยควรสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ต้องอยู่ในที่ที่มีคนหนาแน่น และล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ

สำหรับหน้ากากอนามัยสามารถใช้หน้ากากแบบผ้าเพื่อป้องกันโรคได้ แนะนำทำหน้ากากแบบผ้าใช้เอง โดยใช้ผ้าขนาดประมาณ 7 นิ้วครึ่ง จับจีบตรงกลาง เย็บทบกัน 2 ชั้น และติดยางยืด 2 ข้าง

ส่วนประกอบการทำเจลแอลกอฮอล์ล้างมือใช้เอง

  • เอทิลแอลกอฮอล์ 95% จำนวน 370 มล.
  • คาร์โบพอล 940 (Carbopol 940) 1 กรัม
  • น้ำร้อน 125.5 มล. กลีเซอรีน (Glycerine) 2.5 มล.
  • ไตรเอทาโนลามีน (Triethanolamine) 1 กรัม

วิธีทำ

โปรยคาร์โบพอล 940 ลงในน้ำร้อน คนจนละลายหมด ปล่อยให้พองตัวเต็มที่ จากนั้นเติมเอทิลแอลกอฮอล์ 95% ไตรเอทาโนลามีน และกลีเซอรีน คนให้เข้ากัน จะได้เจลแอลกอฮอล์ปริมาณ 500 กรัม นำใส่ในภาชนะที่สะอาดและปิดฝาให้สนิท

ขณะเดียวกัน กระทรวงสาธารณสุขได้มุ่งให้ความรู้กับกลุ่มผู้ประกอบการ/สถานที่สาธารณะที่มีความเสี่ยงจากการที่มีผู้ใช้บริการจำนวนมาก เพื่อสร้างความร่วมมือในการป้องกันการแพร่กระจายโรค เช่น แท็กซี่ รถประจำทาง รถไฟฟ้า ฟิตเนส ปั๊มน้ำมัน เป็นต้น

โดยในกลุ่มรถแท็กซี่ ได้สร้างความตระหนักในการปกป้องตนเองและผู้โดยสาร โดยใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่ขับรถ ทำความสะอาด 4 จุดเสี่ยงที่ผู้โดยสารสัมผัสบ่อย ได้แก่ ที่จับประตู ที่จับเหนือศีรษะผู้โดยสาร กระจกภายในรถ และที่วางแขน โดยใช้น้ำผสมผงซักฟอก หรือน้ำยาทำความสะอาด หรือแอลกอฮอล์ 70% อย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งสามารถฆ่าเชื้อโรคได้ทั้งไวรัสและแบคทีเรีย รวมทั้งล้างมือบ่อยๆ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ก.พ. 63)

Tags: , , , , , ,
Back to Top