ดาวโจนส์ปิดบวก 152.84 จุด ยังมีหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (22 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีความหวังเกี่ยวกับแนวโน้มการออกมาตรการกระตุ้นด้านการคลังเพิ่มขึ้นในสหรัฐเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และขานรับการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่บ่งชี้ว่า ตลาดแรงงานสหรัฐมีการฟื้นตัวขึ้นอย่างช้าๆ

  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 28,363.66 จุด เพิ่มขึ้น 152.84 จุด หรือ +0.54%,
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,453.49 จุด เพิ่มขึ้น 17.93 จุด หรือ +0.52% และ
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,506.01 จุด เพิ่มขึ้น 21.31 จุด หรือ +0.19%

ตลาดได้แรงหนุน หลังจากนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐรายงานความคืบหน้าในการเจรจากับทำเนียบขาวเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ โดยระบุว่า มาตรการดังกล่าวอาจจะได้รับการอนุมัติเร็วๆ นี้

อย่างไรก็ตาม นายลาร์รี คุดโลว์ ที่ปรึกษาเศรษฐกิจของทำเนียบขาวเตือนว่า ทั้งสองฝ่ายยังคงมีความเห็นแตกต่างด้านนโยบายที่สำคัญ ซึ่งทำให้ไม่มีแนวโน้มที่ทั้งสองฝ่ายจะสามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ก่อนวันเลือกตั้งในวันที่ 3 พ.ย.

หุ้น 8 ใน 11 กลุ่มของดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้น โดยหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นมากที่สุด

หุ้นกิลเลียด ไซแอนเซส พุ่ง 3.16% หลังสำนักงานอาหารและยาของสหรัฐ (FDA) ได้อนุมัติให้มีการใช้ยาต้านไวรัส Veklury หรือ remdesivir เพื่อรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในโรงพยาบาล

หุ้นเทสลา บวก 0.7% หลังรายงานผลกำไรเป็นไตรมาสที่ 5 ติดต่อกัน และมีรายได้สูงเป็นประวัติการณ์ถึง 8.8 พันล้านดอลลาร์

หุ้นโคคา-โคลา พุ่งขึ้น 1.4% หลังเปิดเผยผลประกอบการดีกว่าคาด

สำหรับการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 787,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 14 มี.ค. ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 875,000 ราย หลังจากอยู่ที่ระดับ 842,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้านี้

ทั้งนี้ ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกอยู่ต่ำกว่าระดับ 1 ล้านรายเป็นสัปดาห์ที่ 8 ติดต่อกันแล้ว หลังจากพุ่งเหนือระดับ 1 ล้านรายเป็นเวลา 5 เดือน นับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา

ด้านสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองดีดตัวขึ้น 9.5% ในเดือนก.ย. หลังจากเพิ่มขึ้นเพียง 2.4% ในเดือนส.ค.

ทั้งนี้ บรรดานักลงทุนจะจับตาการดีเบตรอบสุดท้ายระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จากพรรครีพับลิกัน และนายโจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครตในพฤหัสบดีเวลา 21.00-22.30 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับเช้าวันศุกร์นี้เวลา 08.00-09.30 น.ตามเวลาไทย

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 ต.ค. 63)

Tags: , ,
Back to Top