CIMBT-SOMPO จับมือรุกตลาดแบงก์แอสชัวรันส์ หวังขยายฐานกลุ่มรายย่อยเพิ่ม

นางชญณา ศิริภิรมย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ซมโปะประกันภัย (ประเทศไทย) หรือ SOMPO กล่าวว่า บริษัทได้ร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจแบบ Exclusive Partnership กับกลุ่มซีไอเอ็มบีไทย(CIMBT) โดยนำความพร้อม ความเชี่ยวชาญ และทรัพยากรทั้งเชิงระบบและบุคคลากรของทั้ง 2 องค์กร มาใช้ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันวินาศภัยที่ออกแบบให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างครบครัน และเป็นอีกก้าวที่สำคัญของซมโปะในการรุกตลาดแบงก์แอสชัวรันส์อย่างเต็มรูปแบบครั้งแรกในไทย

โดยการความร่วมมือกับกลุ่มซีไอเอ็มบีไทยในครั้งนี้ จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันภัยนำเสนอให้กับลูกค้า ได้แก่กลุ่มลูกค้าธนาคาร จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพ และประกันอัคคีภัยที่คุ้มครองที่อยู่อาศัย กลุ่มลูกค้ารถยนต์ ที่จะนำเสนอผ่านบริษัท ซีไอเอ็มบี ไทย ออโต้ จำกัด ซึ่งจะเน้นไปที่ประกันรถยนต์ชั้น 1 ชั้น 2+ และชั้น 3+ ส่วน และบริษัทเวิลด์ลีส จำกัด จะเน้นไปที่การนำเสอนผลิตภัณฑ์ประกันรถมอเตอร์ไซด์ที่รวมความคุ้มครองอุบัติเหตุควบคู่ไปด้วยโดยจะเห็นว่าเป็นการกระจายการนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่เข้าถึงและตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าหลากหลายกลุ่มได้เป็นอย่างดี ทำให้บริษัทสามารถขยายฐานกลุ่มลูกค้ารายย่อยได้เพิ่มขึ้นจากการนำเสนอขายประกันภัยผ่านช่องทางธนาคาร โดยธนาคารตั้งเป้าในปี 64 จะเพิ่มสัดส่วนกลุ่มลูกค้ารายย่อยเพิ่มเป็น 50% จากปัจจุบันอยู่ที่ 20-30%

สำหรับการเริ่มนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันภัยของซมโปะผ่านช่องทางการขายของกลุ่มซีไอเอ็มบี ไทย จะเริ่มในวันที่ 4 พ.ย. 63 เป็นต้นไป โดยตั้งเป้าเบี้ยประกันภัยรับที่มาจากการขายผ่านช่องทางกลุ่มซีไอเอ็มบี ไทย ในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี 63 (พ.ย.-ต.ค. 63) อยู่ที่ 55 ล้านบาท ซึ่งถือว่าในช่วง 2 เดือนแรกของการเริ่มต้นเป็นการทดลองตลาด ก่อนที่จะรุกตลาดมากขึ้นในปี 64 ซึ่งจะเป็นปีที่ซมโปะจะหันมาขยายฐานลูกค้ารายย่อยในกลุ่มประกันภัยมากขึ้น เพื่อผลักดันให้บริษัทมีส่วนแบ่งตลาดเพิ้มขึ้น จากปัจจุบันมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 2%

ส่วนภาพรวมเบี้ยประกันภัยรับของซมโปะในปี 63 มองว่าจะใกล้เคียงปีก่อนที่ 3 พันล้านบาท เนื่องจากในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมาการซื้อประกันภัยมีแนวโน้มชะลอตัวลงไปบ้าง จากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้ลูกค้าชะลอการซื้อประกันภัย โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าธุรกิจซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของซมโปะที่ชะลอการซื้อประกันภัย หลังภาวะของเศรษฐกิจชะลอกระทบกับธุรกิจของลูกค้า แต่หลังจากที่โควิด-19 ในประเทศไทยเริ่มดีขึ้นมาต่อเนื่อง การซื้อประกันภัยของกลุ่มลูกค้าธุรกิจเริ่มกลับมาบ้าง แต่ยังไม่เท่ากับในช่วงภาวะปกติ ทำให้บริษัทมองถึงการปรับสัดส่วนของกลุ่มลูกค้า ที่จะขยายฐานไปสู่กลุ่มลูกค้ารายย่อยเพิ่มขึ้น ทำให้พอร์ตมีความสมดุล และช่วยกระจายความเสี่ยงได้ดีสามารถผลักดันการเติบโตของซมโปะในประเทศไทยได้ในอนาคต

นายสุธีร์ โล้วโสภณสกุล รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CIMBT กล่าวว่า ซมโปะกับธนาคารมีรากฐานการทำธุรกิจที่คล้ายกัน ทำให้เชื่อมั่นว่าการผนึกกำลังกันส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการประกันภัยที่เผ็นเลิศให้กับลูกค้าได้ และช่วยผลักดันให้ธุรกิจแบงก์แอสชัวรันส์มีผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่มีตัวเลือกมากขึ้นให้กับลูกค้า ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างหลากหลายและผลักดันให้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจแบงก์แอสชัวรันส์เติบโตขึ้น

สำหรับผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่จะนำมาเสนอขายนั้นได้ร่วมกับซมโปะคัดสรรผลิตภัณฑ์ประกันที่เน้นการใส่ใจรายละเอียด เช่น ประกันสุขภาพ โดยเฉพาะประกันมะเร็ง ที่เป็นจุดแข็งของซมโปะ ที่มีความคุ้มครองและผลประโยชน์ที่เหนือกว่าคู่แข่งรายอื่นในตลาด ประกันรถยนต์ที่เน้นจุดเด่นของการเคลมประกันที่รวดเร็ว ทีมงานสามารถเดินทางมาหาลูกค้าได้ภายใน 25 นาที ถ้าเกิน 25 นาที ซมโปะจะแถมประกันอุบัติเหตุให้ลูกค้า และใช้เวลาเคลมกับอู่เพียง 1 ชั่วโมง จากปกติ 2-3 วันกว่าที่อู่จะตอบกลับ และประกันรถมอเตอร์ไซด์ที่คุ้มครองอุบัติเหตุ 100,000 บาท ซึ่งเป็นจุดเด่นที่ดีกว่าผู้ให้บริการรายอื่นในตลาด

“ความร่วมมือกันในการเป็นพันธมิตรนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันภัยของซมโปะ ผ่านช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์ของกลุ่มซีไอเอ็มบี ไทย สัญญาความร่วมมือ 15 ปื จะช่วยให้ซมโปะ และซีไอเอ็มบี ไทย ขยายฐานลูกค้าและเติบโตไปพร้อมกันได้ จากการรวมศักยภาพของทั้ง 2 องค์กร ที่มีจุดแข็งแตกต่างกัน มาร่วมมือทางธุรกิจ ซึ่งเป็นก้าวสำคัญที่จะเสริมความแข็งแกร่งซึ่งกันและกัน”

นายสุธีร์ กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 ต.ค. 63)

Tags: , , , , , , , ,
Back to Top