SIRI ออกหุ้นกู้ 1 พันลบ.ขายสถาบัน-รายใหญ่รองรับขยายธุรกิจต่อเนื่อง

นางสาววรางคณา อัครสถาพร รักษาการตำแหน่ง ประธานผู้บริหารสายงานการเงินและสนับสนุนธุรกิจ บมจ.แสนสิริ (SIRI) เปิดเผยว่า บริษัทเปิดเสนอขายหุ้นกู้มูลค่ารวม 1,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายธุรกิจต่อเนื่องในปีนี้ จากความสำเร็จในการได้รับความเชื่อมั่นในการเป็น “แบรนด์อันดับหนึ่งของคนอยากมีบ้าน” จนสามารถสร้างยอดขายและยอดโอนที่ดี

SIRI เตรียมออกเสนอขายหุ้นกู้ชนิด ระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ อายุ 3 ปี 6 เดือน มูลค่าหุ้นกู้รวม 1,000 ล้านบาท และมีหุ้นกู้สำรองสำหรับเสนอขายเพิ่มเติมไม่เกิน 500 ล้าน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.95% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ ราคาเสนอขายหน่วยละ 1,000 บาท มูลค่าจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาทและทวีคูณของ 100,000 บาท เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ เริ่มจำหน่ายวันที่ 6 และ 9-10 พ.ย. นี้

บริษัทแต่งตั้งให้ 7 สถาบันการเงินชั้นนำ ได้แก่ ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย บล.โนมูระ พัฒนสิน บล.กรุงไทย ซีมิโก้ และ บล.ฟินันเซีย ไซรัส เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย

“บริษัทได้วางแผนออกหุ้นกู้ที่เหมาะสมเพื่อช่วยสร้างเสถียรภาพด้านการบริหารต้นทุนทางการเงินและดอกเบี้ยอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งเป็นแหล่งเงินทุนหมุนเวียนในการขยายธุรกิจในไตรมาส 4 ทั้งนี้ บริษัทมีแผนรุกเปิดตัวอีก 10 โครงการแนวราบในไตรมาส 4 ครอบคลุมทุกแบรนด์ อาทิ สิริ เพลส – อณาสิริ – สราญสิริ – เศรษฐสิริ มูลค่ารวม 11,700 ล้านบาท เพื่อตอบรับความต้องการของลูกค้า”

นางสาววรางคณา กล่าว

สำหรับหุ้นกู้ที่บริษัทนำเสนอในครั้งล่าสุดนี้ นับว่าให้อัตราดอกเบี้ยที่น่าสนใจและมีผลตอบแทนที่ดี มีอันดับเครดิตองค์กรของ SIRI โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ที่ระดับ BBB+ อันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงความสามารถในการเป็นผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย รวมทั้งสถานะการตลาดที่แข็งแกร่งในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ การนำเสนอหุ้นกู้ของบริษัทในครั้งนี้ เชื่อมั่นว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนต่อเนื่อง เช่นเดียวกับที่บริษัทประสบความสำเร็จจากการเสนอขายหุ้นกู้ต่อเนื่องตลอดทั้งปี 63

โดยล่าสุดบริษัทยังได้ปรับเป้าหมายยอดโอนปี 2563 เพิ่มขึ้นเป็น 43,000 ล้านบาท จากเป้าหมายเดิมที่วางไว้ 42,000 ล้านบาท เนื่องจากผลการดำเนินธุรกิจรอบ 10 เดือน บริษัทสามารถสร้างยอดโอนได้กว่า 36,000 ล้านบาท เติบโตขึ้นถึง 100% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และคิดเป็น 86% จากเป้าหมายยอดโอนเดิม

นอกจากนี้บริษัทยังได้ปรับประมาณการเป้าหมายรายได้รวมทั้งปีเพิ่มขึ้นเป็น 34,000 ล้านบาท จากเป้าที่วางไว้เดิม 32,000 ล้านบาท จากการมองเห็นแนวโน้มรายได้และกำไรที่คาดว่าจะสูงขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง

“ความสำเร็จจากผลงานการโอนในช่วง 10 เดือน แบ่งเป็นยอดโอนจากโครงการแนวราบ 14,900 ล้านบาท เติบโตขึ้น 43% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่โครงการคอนโดมิเนียมมียอดโอนล่าสุดสูงถึง 21,100 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 164% ผลงานมาจากการโอนคอนโดมิเนียม อาทิ โครงการ เดอะ โมนูเมนต์ ทองหล่อ, คาวะ เฮาส์, เดอะ ไลน์ สุขุมวิท 101, เดอะ ไลน์ พหลฯ – ประดิพัทธ์ และ เดอะ ไลน์ วงศ์สว่าง เป็นต้น

นอกจากนี้ล่าสุด บริษัทยังได้เปิดโอนส่งมอบคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จใหม่ อาทิ อาทิ XT เอกมัย, โอกะ เฮาส์, ดีคอนโด ธาร จรัญฯ, ลา ฮาบานา หัวหิน เป็นต้น รวมถึงแผนการโอนโครงการแนวราบที่สร้างเสร็จพร้อมโอนอย่างต่อเนื่อง” นางสาววรางคณา กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 พ.ย. 63)

Tags: , , , , ,
Back to Top