ดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งกว่า 200 จุด ขานรับคืบหน้าวัคซีนโควิด

ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งขึ้นกว่า 200 จุดในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะดีดตัวขึ้นในคืนนี้ ขานรับความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19

ณ เวลา 17.51 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 216 จุด หรือ 0.74% สู่ระดับ 29,428 จุด

ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 200 จุดเมื่อวันศุกร์ เนื่องจากนักลงทุนมีความวิตกเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในสหรัฐ, การล็อกดาวน์เพื่อควบคุมโรคระบาด รวมทั้งระยะเวลาที่ยาวนานในการผลิตและแจกจ่ายวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19

ขณะนี้สหรัฐติดอันดับ 1 ของโลกทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และผู้เสียชีวิต โดยมีผู้ติดเชื้อมากกว่า 12 ล้านราย และเสียชีวิตมากกว่า 260,000 ราย

ไฟเซอร์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทยาใหญ่ที่สุดของสหรัฐ และ BioNTech ซึ่งเป็นบริษัทยาของเยอรมนี ได้ยื่นเรื่องต่อสำนักงานอาหารและยาสหรัฐ (FDA) เมื่อวันศุกร์ เพื่อขออนุมัติการใช้วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของทางบริษัทเป็นกรณีฉุกเฉิน

หาก FDA ให้การอนุมัติ ก็จะส่งผลให้ไฟเซอร์สามารถทยอยใช้วัคซีนดังกล่าวกับชาวอเมริกันกลุ่มต่างๆ โดยกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ จะได้รับการฉีดวัคซีนก่อน ขณะที่กลุ่มผู้ให้บริการในภาคส่วนที่สำคัญ ครูอาจารย์ คนจรจัด และนักโทษในเรือนจำ จะได้รับวัคซีนเป็นกลุ่มต่อไป ตามมาด้วยกลุ่มเด็กและวัยรุ่น

ทั้งนี้ ไฟเซอร์นับเป็นบริษัทแรกที่ยื่นขออนุมัติการใช้วัคซีนต้านโควิด-19 ต่อ FDA เป็นกรณีฉุกเฉิน โดยบริษัทระบุว่า วัคซีน BNT162b2 มีประสิทธิภาพมากถึง 95% ในการป้องกันไวรัสโควิด-19 ซึ่งสูงกว่าวัคซีนของโมเดอร์นา อิงค์ ซึ่งให้ผล 94.5%

ส่วนแอสตร้าเซนเนก้า เปิดเผยในวันนี้ว่า ผลการวิเคราะห์เบื้องต้นพบว่า วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ซึ่งทางบริษัทพัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดมีประสิทธิภาพ 70% ในการป้องกันไวรัสโควิด-19

นอกจากนี้ FDA ยังได้ให้การอนุมัติการใช้แอนติบอดีของ Regeneron ในการรักษาโรคโควิด-19 ในกรณีฉุกเฉิน ซึ่งเป็นวิธีการรักษาที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เคยได้รับก่อนหน้านี้

นายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวยืนยันว่า เขาจะไม่ออกคำสั่งล็อกดาวน์สหรัฐทั้งประเทศเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

“ผมจะไม่สั่งชัตดาวน์เศรษฐกิจ แต่ผมจะชัตดาวน์ไวรัส ผมขอย้ำว่าจะไม่มีการชัตดาวน์ทั้งประเทศ”

อย่างไรก็ดี ตลาดยังคงถูกกดดันจากการที่นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ยืนยันว่าจะไม่ต่ออายุโครงการเงินกู้ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 พ.ย. 63)

Tags: , ,
Back to Top