สธ.พบผู้ติดเชื้อโควิดในสิงห์บุรี หลังบินกลับจากเชียงราย-ตรวจกลุ่มเสี่ยงสูง 4 ราย

นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เป็นหญิงไทย อายุ 51 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่จ.สิงห์บุรี เดินทางมาจากเชียงราย แต่รายนี้ข้อมูลยังไม่ครบถ้วน เนื่องจากเพิ่งได้รับแจ้งเมื่อเช้า อยู่ระหว่างการดำเนินการสอบสวนโรคว่าเป็นการติดเชื้อจากที่ใด และเดินทางข้ามไปประเทศเพื่อนบ้านหรือไม่ จึงยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นการติดเชื้อในประเทศหรือติดเชื้อมาจากต่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขระบุว่าหากประชาชนเดินทางไปยัง จ.เชียงใหม่และ จ.เชียงราย เมื่อกลับมาภูมิลำเนาแล้วคงไม่ต้องกักตัว 14 วัน หากไม่ได้มีความเสี่ยงในการสัมผัสกับผู้ติดเชื้อ เพราะยังไม่มีความเสี่ยงการแพร่ระบาด

รายงานข่าวจากกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า จากการสอบสวนโรคหญิงวัย 51 ปี ในจ.สิงห์บุรี ในเบื้องต้นพบว่าได้เดินทางไปยัง จ.เชียงรายเมื่อวันที่ 25 พ.ย.แล้วเดินทางไปยังโรงงานเล้งเฮงใน อ.เวียงป่าเป้า และเข้าพักในโรงแรมบิ๊กอาย จากนั้นในวันที่ 26 พ.ย. รับคณะดูงานที่โรงงานเล้งเฮง และเดินทางไปที่สิงห์ปาร์ค เชียงราย อยู่จนถึง 19.00 น. วันต่อมาเข้าไปทำงานที่โรงงานเล้งเฮงจนถึงเวลา 16.00 น.แล้วไปไหว้พระใกล้กับโรงงาน จากนั้นเดินทางกลับที่พัก

วันที่ 28 พ.ย.เดินทางด้วยรถตู้ของโรงงานไปยังสนามบินเชียงรายเพื่อเดินทางด้วยเที่ยวบิน DD8717 กลับมายังสนามบินดอนเมือง และมีรถตู้ของโรงงานมารับไปที่ อ.แสวงหา จ.อ่างทอง ระหว่างทางแวะรับประสานอาหารที่ร้านบิ๊กบะหมี่ วันต่อมา 29 พ.ย.ไปซื้อกับข้าวที่ตลาดท่าข้าม จากนั้นวันที่ 30 พ.ย.เข้ารับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่ รพ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี กลับมาอยู่บ้านในช่วงวันที่ 1-2 ธ.ค.เริ่มมีอาการป่วยแต่คิดว่าเป็นผลของวัคซีนไข้หวัดใหญ่

และเมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ได้รับทราบข่าวไทม์ไลน์ของผู้ติดเชื้อโควิดที่เดินทางมาในเที่ยวบินเดียวกันจึงเข้ารับการตรวจเชื้อที่ รพ.บางระจัน

ด้านนายแพทย์จักราวุธ จุฑาสงฆ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสิงห์บุรี กล่าวว่าหลังทราบว่ามีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัด จึงได้ให้เจ้าหน้าที่เร่งลงทำการสืบสวนโรคตามไทม์ไลน์ เบื้องต้นพบผู้ใกล้ชิดทีความเสี่ยงสูงจำนวน 4 ราย เป็นสามี พ่อ แม่ และร้านตัดเสื้อ ขณะนี้ได้นำตัวไปกักดูอาการและตรวจเชื้อไว้ที่โรงพยาบาลแล้ว ส่วนผู้สัมผัสที่มีความเสี่ยงต่ำมีจำนวน 13 ราย ตอนนี้ได้ให้กักตัวอยู่ที่บ้านเพื่อรอดูอาการแล้วทั้งหมด

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ธ.ค. 63)

Tags: , , , ,
Back to Top