รัฐบาลสหรัฐยื่นฟ้อง ‘เฟซบุ๊ก’ ฐานผูกขาดตลาดโซเชียลมีเดีย เล็งบีบขาย ‘อินสตาแกรม-วอทส์แอป’

คณะกรรมาธิการการค้าของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FTC) และรัฐต่างๆในสหรัฐ ได้ยื่นฟ้องบริษัทเฟซบุ๊ก อิงค์ ในข้อหาผูกขาดตลาดโซเชียลมีเดีย ด้วยการเข้าซื้อกิจการอินสตาแกรม และวอทส์แอป ซึ่งถือเป็นการลดโอกาสในการแข่งขันของบริษัทคู่แข่งรายอื่น

ทั้งนี้ FTC ระบุในคำฟ้องว่า เฟซบุ๊กใช้กลยุทธ์เชิงระบบ ซึ่งรวมถึงการเข้าซื้อกิจการอินสตาแกรม และวอทส์แอป เพื่อสกัดการแข่งขันจากบรรดาบริษัทคู่แข่งรายอื่นๆ ซึ่งถือเป็นการผูกขาดตลาด นอกจากนี้ FTC เตรียมยื่นฟ้องร้องต่อศาลเพื่อบีบให้เฟซบุ๊กตัดขายกิจการอินสตาแกรม และวอทส์แอป

นายเอียน คอนเนอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานกำกับดูแลด้านการแข่งขันของ FTC กล่าวว่า “การยื่นฟ้องดำเนินคดีต่อเฟซบุ๊กในครั้งนี้ มีเป้าหมายที่จะฟื้นฟูการแข่งขันในอุตสาหกรรมที่สำคัญ และสร้างรากฐานใหม่ๆในอนาคตให้กับบรรดาผู้แข่งขันที่ต้องการสร้างธุรกิจให้เติบโตและมีนวัตกรรม โดยไม่ต้องเผชิญกับการผูกขาดตลาดจากเฟซบุ๊ก”

ทางด้านนางเลลิเทีย เจมส์ อัยการรัฐนิวยอร์ก ซึ่งเป็นแกนนำอัยการของรัฐต่างๆในสหรัฐอีก 48 รัฐที่ยื่นฟ้องร้องในคดีเดียวกันนี้ เปิดเผยว่า การที่เฟซบุ๊กเข้าซื้อกิจการอินสตาแกรม และวอทส์แอป ซึ่งเป็นบริษัทคู่แข่งของเฟซบุ๊กนั้น ถือเป็นพฤติกรรมการกำจัดคู่แข่ง ซึ่งการผูกขาดตลาดในลักษณะเช่นนี้ได้สร้างความเสียหายต่อผู้บริโภคในแง่ของการลดโอกาสในการป้องกันข้อมูลส่วนตัว

อัยการรัฐนิวยอร์กยังกล่าวด้วยว่า นับตั้งแต่ปี 2547 เฟซบุ๊กได้ให้บริหารแบ่งปันข้อมูลข่าวสารทางออนไลน์โดยไม่คิดค่าบริการจากผู้ใช้งาน แต่เฟซบุ๊กมีรายได้มหาศาลจากการขายโฆษณา และฉวยโอกาสเก็บข้อมูลส่วนตัวของบรรดาผู้ใช้งานและเครือข่ายเพื่อนฝูงของผู้ใช้งาน นอกจากนี้ เฟซบุ๊กยังสร้างอิทธิพลในตลาดโซเชียลมีเดีย ด้วยการรุกซื้อบริษัทคู่แข่งรายเล็กกว่า เพื่อป้องกันไม่ให้บริษัทเหล่านี้เติบโตจนกลายมาเป็นคู่แข่งที่อันตรายต่อเฟซบุ๊กในอนาคต โดยเฟซบุ๊กได้เข้าซื้อกิจการอินสตาแกรมในปี 2555 และซื้อกิจการวอทส์แอปในปี 2557

“แทนที่จะทำธุรกิจอย่างถูกต้องตามครรลองของการแข่งขัน แต่เฟซบุ๊กกลับใช้อิทธิพลในการสร้างแรงกดดันต่อการแข่งขัน และยังฉวยโอกาสใช้ข้อมูลของผู้ใช้งานเพื่อสร้างผลประโยชน์จำนวนมหาศาล ขณะนี้รัฐเกือบทุกรัฐในสหรัฐได้ร่วมกันฟ้องร้องเพื่อดำเนินคดีทางกฎหมายต่อเฟซบุ๊ก เนื่องจากเฟซบุ๊กมีพฤติกรรมผูกขาดตลาด ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย”

นางเจมส์ อัยการรัฐนิวยอร์กกล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ธ.ค. 63)

Tags: , , , , , ,
Back to Top