CONSENSUS: โบรกฯเชียร์ ซื้อ BJC มองกำไรโค้งสุดท้ายโตสูงสุดรอบปี, อัพไซด์เด่นปี 64

โบรกเกอร์ แนะนำ”ซื้อ”หุ้น บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC) ราคาหุ้นเข้าข่าย Laggard ขึ้นช้ากว่ากลุ่มฯ ด้านปัจจัยพื้นฐานลุ้นกำไรโค้งสุดท้ายปี 63 เติบโตสูงสุดรอบปี ตามปัจจัยบวกฤดูกาล ขณะที่ธุรกิจค้าปลีกผ่าน “Big C” ส่งซิกฟื้นตัวชัดขานรับอานิสงส์มาตรการกระตุ้นกำลังซื้อในประเทศ ทั้งช้อปดีมีคืน,เราเที่ยวด้วยกัน และ คนละครึ่ง

ส่วนกลุ่มเวชภัณฑ์เล็งรับประโยชน์งบประมาณปี 64 รับลูกค้าเป็นโรงพยาบาลรัฐ และกลุ่มบรรจุภัณฑ์มองสัญญาณโตต่อเนื่องตามคำสั่งซื้อลูกค้าเพิ่ม

จับตาแนวโน้มกำไรปี 64 ลุ้นโตกระโดดเกือบ 60% เหตุปรับโครงสร้างลดค่าใช้จ่ายและอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเริ่มพลิกฟื้นตัว หนุนอัพไซด์ยังเด่นในปีหน้า

พักเที่ยงราคาหุ้น BJC อยู่ที่ 39.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท หรือ 3.29% ขณะที่ดัชนีหุ้นไทย ลดลง 0.17%

โบรกเกอร์คำแนะนำราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
เคทีบีซื้อ43
ดีบีเอส วิคเคอร์สฯซื้อ40
ทิสโก้ซื้อ41
โนมูระ พัฒนสินซื้อลงทุนระยะยาว41
เมย์แบงก์ กิมเอ็งฯซื้อ46
ยูโอบี เคย์เฮียนฯซื้อ39
แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ซื้อเก็งกำไร41
หยวนต้า ซื้อ47

นางสาววิชชุดา ปลั่งมณี ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ฝ่ายวิจัยฯมีมุมมองเชิงบวกหุ้น BJC และเลือกเป็นหนึ่งในหุ้นเด่นของกลุ่มค้าปลีกที่ปัจจุบันคงน้ำหนักการลงทุน “มากกว่าตลาด”

แม้ว่าช่วงนี้ภาพรวมดัชนีตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างร้อนแรง แต่หากประเมินมูลค่าหุ้น BJC ที่ซื้อขายบน P/E อยู่ที่ 22-23 เท่าภายใต้สมมติฐานกำไรต่อหุ้น (EPS) ของปี 64 เมื่อเทียบกับหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมค้าปลีกที่ซื้อขายบน P/E เฉลี่ย 27-28 เท่า ทำให้มีความน่าสนใจด้าน Valuation เข้าข่ายหุ้น Laggard หรือราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นช้ากว่ากลุ่มฯ ขณะเดียวกันเมื่อนำปัจจัยพื้นฐานมาประกอบแล้วพบว่ามีอัพไซด์น่าลงทุนจากราคาพื้นฐานที่ 47 บาท

สำหรับแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/63 มีโอกาสเห็นการเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะธุรกิจค้าปลีกผ่านสาขา “Big C” ส่วนหนึ่งจากการเข้าสู่ช่วงฤดูกาลและได้ประโยชน์จากนโยบายกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศของภาครัฐ เช่น ช้อปดีมีคืน ,เราเที่ยวด้วยกัน ,คนละครึ่ง เป็นต้น ด้านกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค พบว่ายอดขายโตต่อเนื่องโดยเฉพาะสินค้ากระดาษทิชชู่ที่บริษัทเพิ่มสินค้าใหม่หลายแบรนด์ เช่น Cellox Purify Line Friends ,Cellox Purify Premium 3 ply ,Maxmo Giant Roll , DMP Triple Moisture

ส่วนภาพรวมธุรกิจกลุ่มเวชภัณฑ์และเครื่องมือเครื่องจักรมองเห็นสัญญาณเติบโต ยอดขายที่ดีตอบรับกับปัจจัยบวกอนุมัติงบประมาณปี 64 ของภาครัฐ เพราะลูกค้าส่วนหนึ่งของ BJC เป็นโรงพยาบาลรัฐ เช่นเดียวกับธุรกิจบรรจุภัณฑ์คาดเห็นการเติบโตตามคำสั่งซื้อของลูกค้าเพิ่มในสินค้ากระป๋องประเภทแอลกอฮอล์และกลุ่มขวดไวตามิลค์ ขณะที่ระดับมาร์จิ้นยังทำได้ดีต่อเนื่อง ต้นทุนวัตถุดิบ เช่น ค่าก๊าซฯ และราคาต้นทุน ขณะเดียวกันมีการปิดซ่อมบำรุงในกลุ่มขวดแก้วซึ่งมีผลกระทบต่อต้นทุนบางส่วน แต่ไม่กระทบกับรายได้อย่างเป็นนัย

บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า แม้ว่าจะปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 63 ของ BJC ลงเล็กน้อยประมาณ 4% มาอยู่ที่ 4.1 พันล้านบาท หรือหดตัว 44% เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากยอดขายต่อสาขาเดิมของ Big C ยังอยู่ระดับติดลบ 16% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากเดิมที่คาดติดลบ 12%

แต่ฝ่ายวิจัยฯมองเห็นสัญญาณเชิงบวกต่อการฟื้นตัวในระยะถัดไปได้ปรับคำแนะนำเป็น “ซื้อ” จากเดิม “ถือ” กำหนดราคาพื้นฐานอยู่ที่ 43 บาทภายใต้สมมติฐานเป้าหมายกำไรต่อหุ้นปี 64 และ Rerate กลับมาใช้ P/E ในระดับที่ก่อนเกิดวิกฤติโควิด-19 เพราะคาดหวังเห็นภาคการท่องเที่ยวในประเทศฟื้นตัวปี 64 ประมาณการกำไรปี 64 ของ BJC อยู่ที่ 4.9 พันล้านบาท หรือเติบโต 19% จากปีนี้

บทวิเคราะห์บล.โนมูระ พัฒนสิน คงคำแนะนำ “ซื้อลงทุนระยะยาว” สำหรับ BJC ภายหลังจากได้รับข้อมูลจากงาน Opportunity day เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.63 ทำให้คาดการณ์ว่าแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/63 น่าจะค่อยๆ ฟื้นตัวจากไตรมาส 3/63 คาดกำไรอยู่ที่ 1.3-1.4 พันล้านบาท ส่งผลให้ภาพรวมกำไรทั้งปี 63 มาอยู่ที่ 4-4.1 พันล้านบาทใกล้เคียงกับที่ฝ่ายวิจัยฯประมาณการ แต่ปี 64 น่าจะเห็นการเติบโตโดดเด่น เบื้องต้นประมาณการกำไรอยู่ที่ 6.6 พันล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตสูงถึง 57%

ส่วน บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ มองบวกกำไรไตรมาส 4/63 ของ BJC เติบโตเป็นระดับสูงสุดของปีตามปัจจัยฤดูกาลในทุกกลุ่มธุรกิจทั้ง Big C ,บรรจุภัณฑ์ ,กลุ่มเวชภัณฑ์ นอกจากนั้นเริ่มเห็นผลเชิงบวกตามแผนลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายจากการปรับโครงสร้างองค์กรที่เริ่มเห็นผลเต็มที่ในไตรมาส 4/63 เช่น แผนลดค่าใช้จ่ายในส่วนพนักงาน 250 ล้านบาทต่อไตรมาส และปี 64 ได้ผลบวกเต็มปีลดค่าใช้จ่ายประมาณ 1 พันล้านบาทส่งผลให้แนวโน้มกำไรจะฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญในปี 64

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ธ.ค. 63)

Tags: , , , , , ,
Back to Top